วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เป็นประธานการประชุมทางไกลระดับสูงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกี่ยวกับ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่กรุงปักกิ่ง การประชุมครั้งนี้มีหัวข้อหลักคือ “เพิ่มความร่วมมือด้านการป้องกันโควิด-19” โดยมีบุคคลสำคัญทางการเมืองจาก 29 ประเทศ รวมถึงนายอิบัน ดูเก มาร์เกซ ประธานาธิบดีโคลอมเบีย รวมทั้งผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ เช่น นางอาร์มิดา ซัลเซียะฮ์ อาลิสจะฮ์บานา (Ms. Armida Salsiah Alisjahbana) เลขาธิการบริหารคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก

นายหวัง อี้ กล่าวว่า ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มีมาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว นำมาซึ่งโอกาสและประโยชน์อันยิ่งใหญ่ จนถึงปัจจุบันมี 140 ประเทศหุ้นส่วนได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือเกี่ยวกับ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับจีน ยอดการค้าจากความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ระหว่างจีนกับประเทศหุ้นส่วนมีมูลค่ากว่า 9.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยอดการลงทุนโดยตรงจากธุรกิจจีนในประเทศรายทาง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มีมูลค่ากว่า 130,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กลายเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดและกว้างขวางที่สุดของโลกในปัจจุบัน

ฝ่ายต่าง ๆ ระบุว่า ความสามัคคีและความร่วมมือเป็นประเด็นสำคัญในการเอาชนะโควิด-19 วัคซีนควรเป็นสินค้าสาธารณะและจัดสรรอย่างเที่ยงธรรมทั่วโลก รวมทั้งต้องทำให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ ทั้งนี้ ฝ่ายต่าง ๆ ร่วมกันเรียกร้องให้ความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เร่งบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2030 ของสหประชาชาติ ตลอดจนส่งเสริมการเติบโตหลังโควิด-19 ที่เน้นคาร์บอนต่ำ มีความยืดหยุ่น และมีความอดทน

Tim/Ldan/Zhou