บทวิเคราะห์ : 90 วันรวบรวมมาแค่เศษกระดาษแผ่นหนึ่ง ละครการสืบหาต้นตอโควิด-19 ของสหรัฐฯ ที่เลวร้ายควรสิ้นสุดลง

บทวิเคราะห์: 90 วันรวบรวมมาแค่เศษกระดาษแผ่นหนึ่ง ละครการสืบหาต้นตอโควิด-19 ของสหรัฐฯ ที่เลวร้ายควรสิ้นสุดลง_fororder_1127817123_16304817191571n

วันที่ 27 สิงหาคม หน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯ ประกาศบทคัดย่อรายงานการสืบหาต้นตอโควิด-19 สรุปแล้วมี 3 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกยืนยันไม่ได้ว่าไวรัสโควิด-19 มาจากธรรมาชาติหรือหลุดจากห้องปฏิบัติการ ประเด็นที่สอง ปฏิเสธคำกล่าวที่ไวรัสโควิด-19 เป็นอาวุธชีวภาพ และประเด็นที่สาม ใส่ร้ายป้ายสีจีนต่อ

หากทบทวนเบื้องหลังของการออกรายงานดังกล่าวดูออกได้ไม่ยากว่าเรื่องนี้เป็นละครตลก วันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์สั่งให้หน่วยข่าวกรองสืบหาต้นตอโควิด-19 เพื่อยืนยันว่า ไวรัสฯ หลุดจากห้องปฏิบัติการหรือไม่และรายงานเขาภายใน 90 วัน มีการวิเคราะห์เห็นว่าโจ ไบเดนให้หน่วยข่าวกรองทำการสำรวจเช่นนี้มีเจตนาร้ายแต่แรก คือ อยากสร้าง “รายงานใส่ร้ายป้ายสี”

เป็นที่ทราบกันว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เคยใช้ผงซักฟอกขวดเล็กเป็นหลักฐานที่อิรักครอบครองอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง ซึ่งนับเป็นแบบอย่างพฤติกรรมใส่ร้ายป้ายสี การสืบหาต้นตอของไวรัสฯ เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ขนาดแท้ การที่โจ ไบเดนให้สายลับจากหน่วยข่าวกรองทำงานของนักวิทยาศาสตร์มีเจตนาเล็งเห็นผลได้

ความจริงแล้วเดือนมีนาคมที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกประกาศรายงานการวิจัยร่วมระหว่างจีน-องค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นรายงานการสืบหาต้นตอโควิด-19 ที่มีอิทธิพลและเป็นมืออาชีพตามหลักวิทยาศาสตร์ จีนเชิญผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกเดินทางเยือนเพื่อสืบหาต้นตอโควิด-19 แล้ว 2 ครั้ง พร้อมสนองความต้องการในการเยือนทั้งหมดโดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ท่าทีของจีนที่เปิดกว้างและโปร่งใสในการสืบหาต้นตอโควิด-19 ได้รับการชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ

บทวิเคราะห์: 90 วันรวบรวมมาแค่เศษกระดาษแผ่นหนึ่ง ละครการสืบหาต้นตอโควิด-19 ของสหรัฐฯ ที่เลวร้ายควรสิ้นสุดลง_fororder_1127817123_16304817193301n

ขณะนี้ถึงกำหนดเผยแพร่รายงานแล้ว 18 หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบการสำรวจไม่สามารถนำเอกสารที่สามารถแสดงออกมาได้ แต่สร้างรายงานสืบหาต้นตอโควิด-19 ที่ทำให้คนสับสนและใช้กลอุบายใส่ร้ายป้ายสี รายงานฉบับนี้มีความยาวไม่ถึง 500 คำ ไม่มีข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมใด ๆ นอกจากเต็มไปด้วยคำว่า “เป็นไปได้” และ “อาจ” ทั้งยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับต้นตอโควิด-19 เปรียบเสมือน “เศษกระดาษแผ่นหนึ่ง”

พูดตรง ๆ ว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระดมกำลังใช้เวลา 3 เดือนแต่ยังไม่สามารถหาร่องรอยสอดคล้องกับความคาดหวังของพวกเขา ไม่ได้ให้คำตอบที่คณะโจ ไบเดนอยากได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ โจ ไบเดนรอเสียเปล่า ผู้มีวิสัยทัศน์ล้วนดูออกได้ว่าการที่คณะโจ ไบเดนดำเนินยุทธศาสตร์สืบหาต้นตอทางการเมืองของอดีตรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมและก็ไม่ใช่วิธีมุ่งแก้ไขปัญหา

อย่างที่หลายวันก่อนนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า จีนคัดค้านหน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯ กุรายงานสืบหาต้นตอโควิด-19 อย่างเด็ดขาด การสืบหาต้นตอทางการเมืองเป็นสัมภาระที่อดีตรัฐบาลสหรัฐฯ ทอดทิ้งไว้ สหรัฐฯ ปลดสัมภาระยิ่งเร็วก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการก้าวออกจากอุปสรรคในขณะนี้ ทั้งนี้ จีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติพฤติกรรมทำประเด็นการสืบหาต้นตอโควิด-19 เป็นเรื่องการเมืองอีกครั้ง ยุติการสร้างแรงกดดันต่อองค์การอนามัยโลก ยุติการแทรกแซงและทำลายการต้านไวรัสระหว่างประชาคมโลก และความร่วมมือด้านการสืบหาต้นตอโควิด-19 ตามหลักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก

ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่มีเจตนาประณามประเทศใดด้านการสืบหาต้นตอโควิด-19 ในฐานะประเทศใหญ่สหรัฐฯ กับจีนล้วนมีหน้าที่นำเสนอข้อมูลที่จำเป็นและสำรวจต้นตอของไวรัสฯ อย่างสิ้นเชิง หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการระบาดขึ้นอีกครั้ง สหรัฐฯ ยินดีดำเนินการติดต่อกับจีนในด้านนี้ ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวดูเหมือนไม่มีความหยิ่งของเขาซึ่งก่อนหน้านี้ท้าท้ายรายงานการวิจัยว่าด้วยการสืบหาต้นตอโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลกและสร้างแรงกดดันให้จีนยอมรับการสำรวจ ครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุด คือ สหรัฐฯ สามารถพูดจริงทําจริง รักษาคำมั่นสัญญาได้หรือไม่ เวลาจะให้คำตอบ

(Tim/Cui)

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)