เมื่อปี 2018 คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรีจีนได้ยกย่องบุคคลดีเด่น 100 คน ที่มีส่วนต่อการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน  นายหม่า ซ่านเสียง ผู้ไกล่เกลี่ยประจำชุมชนดีเด่นได้รับเกียรติเป็นผู้บุกเบิกการปฏิรูป  โดยได้รับการชื่นชมจากนายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน 

เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว  นายหม่า ซ่านเสียง ในฐานะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยประจำชุมชนมีความกระตือรือร้นในการช่วยแก้ไขความขัดแย้งของชาวบ้าน  และช่วยขจัดความยากลำบากต่าง ๆ ให้แก่ผู้คนทั้งหลาย  โดยสะสมประสบการณ์ที่มีค่าและมีประสิทธิภาพ  ในรายการพิเศษว่าด้วยนายสี จิ้นผิงกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนวันนี้  เราจะเสนอเรื่อง  นายหม่า ซ่านเสียง บุคคลดีเด่นผู้ที่ได้รับการชื่นชมจากนายสี จิ้นผิง

ในช่วงการประชุมสองสภาประจำปี 2018 ของจีน นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เข้าร่วมการอภิปรายของคณะผู้แทนนครฉงชิ่ง  นายหม่า ซ่านเสียง ผู้แทนจากสภาผู้แทนประชาชนของนครฉงชิ่งถือโอกาสนี้รายงานผลการทำงาน และประสบการณ์การทำงานเป็นผู้ไกล่เกลี่ยประจำชุมชนให้แก่นายสี จิ้นผิง ได้รับทราบ

ย้อนไปเมื่อปี 1988 นายหม่า ซ่านเสียง ปลดประจำการจากกองทหาร  และรับหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในชุมชนที่ถนนกวนอินเฉียง นครฉงชิ่ง  ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน  ในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา  นายหม่า ซ่านเสียง ได้จัดการไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับข้อพิพาทและความขัดแย้งระหว่างผู้คน คิดเป็นจำนวนกว่า 2,000 คดี  หลังจากปลดเกษียณแล้ว  นายหม่า ซ่านเสียง เปิดห้องทำงานไกล่เกลี่ยส่วนตัว  และให้การบริการแก่เพื่อนบ้าน

นายหม่า ซ่านเสียง ระบุว่า  ในชุมชน  ผู้คนมักจะเกิดความขัดแย้งหรือความหมางใจกันเนื่องจากปัญหาการเวนคืนที่ดินของรัฐ  การบริหารของเมือง  การบริหารอสังหาริมทรัพย์  และการจัดสรรทรัพย์สินภายในครอบครัว เป็นต้น  พร้อม ๆ กับการพัฒนาของสังคม  ชุมชนต่าง ๆ เริ่มที่จะเรียกร้องต้องการผู้ไกล่เกลี่ยมากขึ้น 

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ชุนชนของเราจะสร้างทางหลวงสายหนึ่ง  ซึ่งเกี่ยวพันถึงสิทธิผลประโยชน์ของร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่สองข้างทางจำนวน 22 ร้าน  และประชากรจำนวนกว่าร้อยคน  ยุ่งยากพอสมควร  ด้วยเหตุนี้  ผมไปเรียนรู้ความคิดเห็นของผู้คนเหล่านี้ก่อน  ขณะเดียวกันก็อธิบายนโยบายของรัฐให้พวกเขาเรียนรู้และเข้าใจอย่างถูกต้อง  ปัจจุบัน การไกล่เกลี่ยต้องพิจารณาถึงเรื่องการพัฒนาและเรื่องความสมานฉันท์ของประชาชนด้วย

นอกจากดำเนินการไกล่เกลี่ยตามชุมชนแล้ว  นายหม่า ซ่านเสียง ยังสมัครไปให้การอบรมแก่ผู้ไกล่เกลี่ยหน้าใหม่  โดยกล่าวแนะนำประสบการณ์การทำงานของตน  อีกทั้งจัดการบรรยายให้แก่บรรดานักศึกษาตามสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ   โดยประชาสัมพันธ์นโยบายหลักของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

เมื่อได้ฟังรายงานของนายหม่า ซ่านเสียงแล้ว  นายสี จิ้นผิง สรุปว่า  ผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนทุกคนควรเรียนกับนายหม่า ซ่านเสียง ซึ่งมีความภักดีต่อพรรค  มีอุดการณ์  มีความุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่  รับใช้ประชาชนด้วยความกระตือรือร้น  เมื่อทำเช่นนี้แล้ว  ไม่ว่าทำงานที่ไหน  ย่อมจะได้รับการต้อนรับจากประชาชน

นายสี จิ้นผิง ยังระบุด้วยว่า  เราต้องการสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างนายหม่า ซ่านเสียงอีกนับพันนับหมื่นคน  สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องเป็นตัวอย่างที่ดี  หวังว่านายหม่า ซ่านเสียง จะทำงานเป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่ดีต่อไป 

นายสี จิ้นผิง ระบุด้วยว่า  พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคการเมืองเพื่อบริการประชาชน  เรื่องการบริการประชาชนไม่ใช่เรื่องเล็ก  เราจำเป็นต้องทำเรื่องของประชาชนทั้งใหญ่และเล็กให้ดี  ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีจำนวนมหาศาลรวมศูนย์อยู่ที่ชุมชน  ดังนั้น  เราจำเป็นต้องปฏิรูปและสร้างสรรค์ต่องานบริหารของชุมชน  ยกทักษะการกำกับดูแลและการบริหาร  เพื่อรับใช้ประชาชนให้ดียิ่ง

（Bo/Zhou/Zhou）