เมื่อย่างเข้าฤดูหนาว  แม่น้ำหยาหลู่จ้างปู้ได้ไหลอย่างเงียบๆ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ฤดูหนาว  แสงเงินแสงทองส่องอยู่ในนิคมหงซิง ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหยาหลู่จ้างปู้    ซึ่งเป็นภาพชีวิตบนที่ราบสูงที่สุขสงบ

นิคมหงซิง ตั้งอยู่อำเภอก้องก่า เมืองซานหนาน เขตปกครองตนเองทิเบต  เมื่อ 5 ปีก่อน  ที่นี่ยังมี 21 ครอบครัวยากจน รวมทั้งหมด 73 คน  แต่ด้วยความพยายามในการขจัดความยากจนโดยเพิ่มโอกาสการทำงาน  เพิ่มระดับการรักษาพยาบาลและการศึกษา  นิคมหงซินได้กลายเป็นหมู่บ้านสาธิตที่มีชีวิตพอกินพอใช้

ยู่เจิน เป็นชาวบ้านนิคมหงซิง  หลายปีก่อน ครอบครัวยากจนมาก  ในบ้านไม่มีทีวี  ไม่มีเครื่องซักผ้า  ไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้า  เครื่องวิทยุที่เก่าแก่เครื่องนี้เป็นของบันเทิงของเธอและลูก    แต่ปัจจุบัน  เมื่อเดินเข้าบ้านใหม่ของเธอ    ห้องรับแขกที่กว้าง มีโซฟาและโต๊ะยาวแบบทิเบต  อีกด้านเป็นเครื่องไฟฟ้า   ทางขาวมือเป็นตู้เย็นที่มี 3 ประตู  ตรงกลางเป็นเครื่องทีวีจอใหญ่   บนตู้มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้า 2 เครื่อง   ยู่เจินเล่าว่า  เครื่องหนึ่งใช้ต้มเนื้อ  เครื่องหนึ่งใช้หุงข้าว

การเปลี่ยนแปลงของชีวิตยู่เจิน ก็เนื่องจากกิจการให้ความช่วยเหลือของนิคมหงซิงนั่นเอง  ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา  นิคมหงซิงได้รับงบจากรัฐบาลกว่า 20 ล้านหยวน  ได้เริ่มพัฒนากิจการพิเศษ เช่น เลี้ยงวัวนม  ปลูกและแปรรูปผลิตภัณฑ์ เป็นต้น  ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อขจัดความยากจน  ได้สร้างโอกาสทำงานปีละประมาณ 2,600 ตำแหน่ง  ดึงดูดชาวบ้านที่ไปทำงานที่ต่างถิ่นกลับมา   ชาวบ้านยากจนซึ่งรวมทั้งยู่เจิน ได้มีงานมั่นคงในฟาร์มเลี้ยงวัวนม

ยู่เจินเล่าว่า   เมื่อก่อน  วันธรรมดาต้องดูแลลูก  จึงมีแต่เจียดเวลาไปทำงานที่บริเวณใกล้ๆ เป็นชั่วคราว   เงินที่ได้รับดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานเท่านั้น  แต่ปัจจุบันอยู่หน้าบ้านก็มีโอกาสทำงานอย่างมั่นคง   เดือนหนึ่งได้เงินเดือนประมาณ 4,500 หยวน   ไม่ต้องไปหางานทำอีก

ปี 2014  นิคมหงซิงได้จัดตั้งสถานีรักษาพยาบาลประจำนิคม  มีแพทย์ประจำอยู่ 2 คน   รับผิดชอบงานรักษาพยาบาลคนชราและงานป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ   ในวันธรรมดายังสามารถช่วยรักษาโรคเล็กๆ ให้กับชาวบ้านทั่วไป  ได้สร้างความสะดวกแก่ชาวบ้านในการใช้บริการรักษาพยาบาล    เหรินเจิง  ชาวบ้านวัย 70 ปีของนิคมหงซิง  มีโรคความดันโลหิตสูง  ปวดหัวบ่อยๆ จนกระทั่งนอนไม่หลับ  แพยท์ประจำนิคมได้กำหนดแผนรักษา  สั่งยาลดความดันโลหิตสูง  กำชับให้เหรินเจิงกินยาตามสั่งทุกวัน  และมาตรวจความดันที่สถานีรักษาพยาบาลวันเว้นวัน   ปัจจุบัน  โรคความดันโลหิตสูงของเหรินเจิงได้รักษาได้ดี  อาการปวดหัวก็เกิดขึ้นน้อยลง

การจัดตั้งสถานีรักษาพยาบาลได้สร้างความสะดวกในการฉีดวัคซีนให้กับเด็กๆ   ปลายเดือนพฤศจิกายน  เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บอำเภอก้องก่าได้มาฉีดวัคซีนให้กับเด็กๆ ในนิคม   ชาวบ้านนิคมหงซิงได้พาเด็กๆ มาที่สถานีรักษาพยาบาลเพื่อฉีดวัคซีน

ชาวบ้านผู้หนึ่งเล่าว่า   เมื่อก่อนต้องเดินทางไปฉีดวัคซีนที่อำเภอ  แต่ปัจจุบันสามารถฉีดวัคซีนได้ในสถานีรักษาพยาบาลบริเวณบ้าน  สะดวกมาก

หลังจากได้ฉีดวัคซีนเสร็จ  ชาวบ้านพาเด็กๆ เดินออกจากสถานีรักษาพยาบาล  เลี้ยวโค้งแล้วก็ถึงโรงเรียนอนุบาลของนิคมหงซิง  ภายในโรงเรียนมีอุปกรณ์เครื่องเล่นของเด็กต่างๆ เช่น บันไดลื่น และกระดานหก เป็นต้น  เด็กๆ เล่นอย่างสนุกสนาน

เลขาธิการนิคมหงซิงเล่าว่า   หลายปีมานี้  อัตราเข้าเรียนของโรงเรียนอนุบาลในนิคมหงซิงได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ผู้ใหญ่ไม่มีความพะวักพะวนต่อค่าการศึกษาของเด็กๆ ต่อไป  ปัจจุบัน  ในนิคมหงซิงไม่มีเด็กถึงวัยเข้าเรียนแต่หยุดเรียนหนังสือกลางคัน  

เมื่อเดินตามถนนนิคมหงซิง  จะได้เห็นบ้านพักสองชั้นอยู่สองข้าง  ไฟถนนด้วยพลังแสงอาทิตย์เรียงอย่างมีระเบียบ  มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น  สนามออกกำลังกาย  ศูนย์ให้ความสะดวกแก่ชาวบ้าน  มีครบทุกอย่าง

ผูปู้โจ๋วหม่า ชาวบ้านนิคมหงซิงกำลังตกแต่งบ้านเก่าอยู่  คนงานหลายสิบคนแบ่งงานกันอย่างมีระเบียบ ซึ่งต่างทำงานอย่างคึกคัก  ผูปู้โจ๋วหม่าเล่าว่า  หลายปีนี้รายได้เพิ่มมากขึ้น  เมื่อมีชีวิตดียิ่งขึ้น  ก็คิดจะตกแต่งบ้านใหม่

224 ครอบครัวในนิคมหงซิงมีพื้นที่ของบ้านพักทั้งหมดกว่า 98,971 ตารางเมตร  ซึ่งได้ปฏิบัติตามนโยบายที่อยู่อาศัยและปฏิบัติตามนโยบายปรับปรุงบ้านเรือนเก่า   นิคมหงซิงได้บรรลุเป้าหมายการประกันที่อยู่อาศัยอย่างรอบด้าน

หลายปีมานี้  พร้อมๆ ระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านได้เพิ่มสูงขึ้น  นิคมหงซิงได้ถือการปรับปรุงโฉมหน้าใหม่ของหมู่บ้านและปรับปรุงบรรยากาศที่อยู่อาศัยของชาวบ้านเป็นงานสำคัญ    ได้ใช้กิจกรรมต่างๆ  เช่น  การซ่อมแซมผนังเก่าแก่  บำบัดขยะ  ความเป็นสีเขียวของบ้านเรือน เป็นต้น   บรรยากาศที่อยู่อาศัยของนิคมได้รับการปรับปรุงเป็นขนาดใหญ่

เปียนปา ชาวบ้านนิคมหงซิงเล่าว่า  เมื่อก่อนมีการก่อสร้างส่วนตัวเป็นอย่างมาก  ซึ่งไม่เพียงแต่ได้ยึดทางหลวงเท่านั้น  หากยังทำลายโฉมหน้าของนิคมอีกด้วย     สร้างผลกระทบทางลบต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้าน  ปัจจุบัน  ในนิคมสะอาดมากขึ้น  มีต้นไม้มากขึ้น  เสียงนกก็เพิ่มมากขึ้น   ชาวบ้านก็มีอารมณ์ดีขึ้น   นอกจากนี้แล้ว  ชาวบ้านทุกคนมีจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย

ชีวิตความเป็นอยู่ของนิคมหงซิงได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ  หมีหม่า เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนนิคมหงซิงเล่าว่า  นิคมหงซิงจะให้ความสำคัญต่อการพัฒนากิจการต่างๆ เช่น กิจการแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร  กิจการท่องเที่ยว เป็นต้น  จดทะเบียนยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร  เพิ่มจิตสำนึกเกี่ยวกับยี่ห้อ    ทุ่มเทกำลังพัฒนาระบบให้บริการสาธารณะในหมู่บ้านให้มากยิ่งขึ้น   สร้างชีวิตที่งดงามยิ่งขึ้นให้กับชาวบ้าน