“ดินแดนล้ำค่าที่ธรรมชาติมอบให้แก่ประชาชาติจีนจะต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างดี”–‘สี จิ้นผิง’ตรวจสภาพภูเขาและแม่น้ำเมืองกุ้ยหลิน

2021-05-06 07:49:49 | CMG
Share with:

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางไปยังอำเภอหยางซั่ว เมืองกุ้ยหลิน ระหว่างการลงพื้นที่เขตกว่างซี โดยเขาให้การชี้นำที่สำคัญอีกครั้งเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ อันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าผู้นำระดับสูงของจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสรรค์วัฒนธรรมทางระบบนิเวศ

แม่น้ำหลีเจียง ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซี อุดมไปด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยว ทิวทัศน์ ภูเขา และแม่น้ำกุ้ยหลินที่มีชื่อเสียงระดับโลกซึ่งอยู่ตามแนวแม่น้ำหลีเจียง

นายสี จิ้นผิงเคยเดินทางมายังแม่น้ำหลีเจียงในวัยหนุ่ม เขากล่าวว่า "ตอนนั้นผมอายุเพียง 13 ปี เท่านั้น หลังจมาถึงแม่น้ำหลีเจียง เพื่อนร่วมชั้นสองสามคนก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดลงไปว่ายน้ำในแม่น้ำ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผิวน้ำเป็นสีฟ้า มองเห็นท้องน้ำ ปลาในตะกร้าของชาวประมงล้วนเป็นปลาหลีฮื้อสีทอง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในฉากของเทพนิยาย"

เวลาผ่านไปกว่าครึ่งศตวรรษ นายสี จิ้นผิงเดินทางกลับมายังแม่น้ำหลีเจียงอีกครั้ง

เขากล่าวกับสหายผู้รับผิดชอบของท้องถิ่นว่า “ความสุขในการมาเยือนครั้งนี้ เรื่องที่ผมสนใจมากที่สุด คือ ภูเขาและแม่น้ำที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับหนึ่งของโลก ยังไงก็สู้ระบบนิเวศที่ดีไม่ได้ใช่ไหม การอนุรักษ์ภูเขาและแม่น้ำของกุ้ยหลินเป็นหน้าที่อันดับแรกของพวกคุณ”

“ดินแดนล้ำค่าที่ธรรมชาติมอบให้แก่ประชาชาติจีนจะต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างดี” – ‘สี จิ้นผิง’ ตรวจสภาพภูเขาและแม่น้ำเมืองกุ้ยหลิน_fororder_习近平在桂林市阳朔县漓江杨堤码头了解漓江流域综合治理、生态保护等情况

วันที่ 25 เมษายน นายสี จิ้นผิงรับฟังรายงานการจัดการทุกด้านและการอนุรักษ์ระบบนิเวศในลุ่มน้ำหลีเจียง ที่ท่าเรือหยางตี อำเภอ หยางซั่ว เมืองกุ้ยหลิน

บ่ายวันที่ 25 เมษายน ที่ท่าเทียบเรือหยางตี อำเภอหยางซั่ว เมืองกุ้ยหลิน ผู้รับผิดชอบจากกรมทรัพยากรน้ำ เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซี รายงานนายสี จิ้นผิงเกี่ยวกับการจัดการลุ่มน้ำหลีเจียงในทุกด้าน

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมืองกุ้ยหลินส่งเสริม "บริหารการปล่อยน้ำเสียสร้างความวุ่นวาย บริหารน้ำใส บริหารภูเขา ตลอดจนบริหารจากต้นตอ" ซึ่งก็คือการจัดการกับโรงงานขุดหินและขุดทรายแม่น้ำอย่างผิดกฎหมาย เรือที่สร้างเป็นบ้าน กระชังปลา ฯลฯ รวมทั้งดำเนินการเติมน้ำหลีเจียง โครงการบำบัดน้ำเสียและคุ้มครองป่าไม้ทำให้สภาพแวดล้อมทางระบบนิเวศของแม่น้ำหลีเจียงได้รับการปรับปรุงดีขึ้น อัตราพื้นที่ป่าไม้บริเวณลุ่มแม่น้ำเกิน 80% และคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักอยู่ที่ระดับ II ตลอดทั้งปี

“ยังมีโรงงานขุดหินผิดกฎหมายอีกหรือไม่?” นายสี จิ้นผิงถามเป็นพิเศษ

"ปัจจุบันไม่มีแล้ว"

"เรื่องเลวร้ายที่สุด คือ การขุดหิน หากคุณทำลายภูเขาลูกใดลูกหนึ่ง ภูเขาลูกนี้จะไม่มีในโลกอีกแล้ว ทั้งจีนและทั่วโลกเป็นสมบัติแบบนี้แค่ที่เดียว อย่าทำลายเด็ดขาด ใครก็ตามที่ขุดตามอำเภอใจ ไม่เพียงแต่ต้องรับผิดชอบเท่านั้น หากยังต้องถูกดำเนินคดีและปราบปรามตามกฎหมาย” สี จิ้นผิง กล่าวย้ำ

ขึ้นเรือจากท่าเทียบเรือหยางตี นายสี จิ้นผิงล่องไปตามแม่น้ำเพื่อตรวจสอบสภาพแม่น้ำช่วงอำเภอหยางซั่ว

"ต้นไม้บนภูเขาห้ามโค่นใช่ไหม" "หมู่บ้านตามริมฝั่งสามารถพัฒนาเกสต์เฮาส์การเกษตรได้บ้าง" "ปีละกี่คนที่มาที่นี่" ... บนดาดฟ้าเรือ นายสี จิ้นผิงถามถึงการอนุรักษ์ระบบนิเวศและการพัฒนาการท่องเที่ยวสองฝั่งแม่น้ำหลีเจียง เป็นต้น

สหายผู้รับผิดชอบของท้องถิ่น รายงานว่า "ภูเขาสีเขียว น้ำใสสะอาด และระบบนิเวศดีงาม" คือ สัญลักษณ์ของที่นี่ พวกเขาจะส่งเสริมคุณภาพและการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติของกุ้ยหลิน บนพื้นฐานของการเร่งส่งเสริมการพัฒนาแบบสีเขียว

“อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกว่างซีมีอนาคตที่สดใสกว้างไกล” สี จิ้นผิง กล่าวพร้อมเห็นด้วย

แม่น้ำใสสะอาดพร้อมภูเขาเขียวขจีตามริมสองฝั่ง เป็นฝีมืออันมหัศจรรย์จากธรรมชาติ แสดงให้โลกเห็นถึงความงดงามและความอัศจรรย์ของผืนแผ่นดินจีน

"แม่น้ำเป็นสายคาดเอวสีเขียวและภูเขาก็เหมือนปิ่นปักผมสีหยกเขียว" สี จิ้นผิงระบุถึงบทกวีโบราณพร้อมกล่าวด้วยความประทับใจว่า ทิวทัศน์ของกุ้ยหลินนั้นดีที่สุดในโลก เขากล่าวว่า “ทั่วประเทศจีนมีไม่กี่ที่ที่มีชื่อเสียงเช่นนี้ คำว่าหนึ่งในใต้ล่า หมายความว่า นิเวศดี ความสวยงามเกิดจากธรรมชาติ มีทั้งน้ำใสและภูเขาเขียว”

“ดินแดนล้ำค่าที่ธรรมชาติมอบให้แก่ประชาชาติจีนจะต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างดี” – ‘สี จิ้นผิง’ ตรวจสภาพภูเขาและแม่น้ำเมืองกุ้ยหลิน_fororder_习近平在桂林市阳朔县乘船考察漓江阳朔段

วันที่ 25 เมษายน นายสี จิ้นผิงนั่งเรือตรวจสอบแม่น้ำหลี่ ในอำเภอหยางซั่ว เมืองกุ้ยหลิน

ระหว่างการลงพื้นที่ นายสี จิ้นผิงกำชับสหายผู้รับผิดชอบในท้องถิ่นหลายครั้งว่า "พวกคุณทำงานที่นี่ หน้าที่ที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลภูเขาและแม่น้ำที่สวยงามที่นี่ให้ดี ถือเป็นพื้นที่ที่มีสมบัติทางธรรมชาติที่มอบให้กับจีน ต้องอนุรักษ์ไว้ให้ดี นี่เป็นหน้าที่สำคัญอันดับแรก"

เช้าวันที่ 27 เมษายน ขณะรับฟังรายงานการทำงานของคณะกรรมการพรรคฯ เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซีและรัฐบาลเขตกว่างซี นายสี จิ้นผิง ย้ำอีกครั้งว่า

“ความโดดเด่นทางระบบนิเวศของกว่างซีไม่สามารถแลกได้กับสิ่งใดแม้แต่เงินทอง การอนุรักษ์ภูเขาและแม่น้ำของกว่างซีเป็นภารกิจทางประวัติศาสตร์ของเรา”

สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่ดี คือ การสร้างความผาสุกให้กับประชาชนอย่างรอบด้านและครอบคลุมทุกภาคส่วน

ภูเขาช้างและแม่น้ำสะท้อนแสงจันทร์เป็นสัญลักษณ์สำคัญของกุ้ยหลิน บ่ายวันที่ 26 เมษายน นายสี จิ้นผิง เดินทางไปที่สวนงวงช้าง เมืองกุ้ยหลิน

นักท่องเที่ยวในสวนสาธารณะเมื่อทราบว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิงมาถึงแล้ว จึงรวมตัวกันและได้พูดคุยกับท่าน

“พวกคุณมาจากไหน?” สี จิ้นผิงถาม

"เรามาจากเมืองเจียซิง มณฑลเจ้อเจียง" "เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน" "เราเป็นชาวเมืองกุ้ยหลิน" ... ทุกคนแย่งกันตอบ

"พวกคุณครับ แต่ละฤดูกาลมีดอกไม้เบ่งบานต่างชนิดกัน ดอกไม้แต่ละชนิดมีความสวยงามโดดเด่นตามฤดูกาล เมืองเจียซิงมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เมืองฝูโจวก็มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และกุ้ยหลินเองก็สวยงาม ดังนั้น เราจึงควรเรียนรู้จากกันและกัน" นายสี จิ้นผิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ดินแดนล้ำค่าที่ธรรมชาติมอบให้แก่ประชาชาติจีนจะต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างดี” – ‘สี จิ้นผิง’ ตรวจสภาพภูเขาและแม่น้ำเมืองกุ้ยหลิน_fororder_习近平在桂林市象鼻山公园考察时,同游客们亲切交流

วันที่ 26 เมษายน นายสี จิ้นผิงพูดคุยกับนักท่องเที่ยวระหว่างการตรวจเยี่ยมสวนงวงช้าง เมืองกุ้ยหลิน

นายสี จิ้นผิงหันไปหาสหายผู้รับผิดชอบของท้องถิ่นว่า  “ความสุขของประชาชนมาจากไหน ก็มาจากสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่ดีนี่แหละ เราต้องยืนหยัดแนวคิดถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง ปรับปรุงคุณภาพบริการ ยกระดับรสนิยม พยายามสร้างเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและเป็นเมืองที่น่าอยู่”

การสร้างสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่ดีนั้นจำต้องจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติให้ดี

การลงพื้นที่ครั้งนี้มีรายละเอียดประการหนึ่งน่าสนใจมาก

ที่หมู่บ้านเหมาจูซานมีต้นพุทราเก่าแก่อายุกว่า 800 ปี ซึ่งยังคงเขียวชอุ่ม เมื่อเดินไปยังใต้ต้นไม้ นายสี จิ้นผิงมองแล้วมองอีก "ผมรู้สึกเคารพต้นไม้อายุยืนยาวเหล่านี้ มนุษย์เรามีอายุเพียงหลายสิบปีเอง แต่ต้นไม้นี้มีชีวิตผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว"

เขายังกล่าวด้วยว่า “เมื่อสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย มนุษย์จะสูญเสียพื้นฐานสำหรับการอยู่รอดและการพัฒนา เมื่อพูดถึงระบบนิเวศ สิ่งที่เป็นรากฐานที่สุด คือ การแสวงหาความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ เราต้องยืนหยัดแนวคิดการพัฒนาและนิเวศวิทยาดังกล่าว เพราะไม่เพียงแต่สอดคล้องกับกระแสการพัฒนาของโลกในปัจจุบันเท่านั้น หากยังเป็นประเพณีทางวัฒนธรรมของประชาชาติจีนที่มีมายาวนานหลายพันปี”

Tim/Lei/Lu

  • เสียงข่าวประจำวัน (19-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (19-04-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (19-04-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (18-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (18-04-2567)

陆永江