"28ปีนี้ รู้สึกว่าประเทศจีนเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะที่ว่า คนจีนและก็สถานที่ต่าง ๆ ในประเทศจีนก็มีลักษณะเป็นสากลมากขึ้น สิ่งที่ในโลกนี้มี ในเมืองจีนก็มีทั้งนั้น จีนติดต่อด้วยกันง่ายขึ้น รู้สึกว่าในด้านนี้จะเปลี่ยนแปลงมาก"
เนื่องจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงสร้างคุณูปการสำคัญต่อการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนและเสริมสร้างไมตรีจิตรมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ เมื่อปี 2000 กระทรวง ศึกษาธิการจีนได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล "มิตรภาพด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน" เมื่อปี 2001 กองทุนวรรณคดีจงหวาของสมาคมนักเขียนจีนทูลเกล้าฯถวายรางวัล "วรรณคดีนานาชาติด้านความเข้าใจและมิตรภาพ" ปี 2004 สมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์ประชาชนจีนยกย่องให้ทรงเป็น "ทูตสันถวไมตรีมิตรของประชาชน" ซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุดที่สมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์มอบให้แก่มิตรชาวต่างชาติ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงส่งเสริมให้เยาวชนไทยผูกมิตรกับจีน เรียนภาษาและวัฒนธรรมจีน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงมีพระราชดำรัสว่า "ที่จริง เวลาเรียนอยู่ในประเทศไทย ถึงแม้ครูจะเก่ง สอนดี ก็ไม่เหมือนเวลาที่พบคนจีนในสถานการณ์จริง เพราะฉะนั้น เด็กไทยในสมัยนี้ก็สนใจเรียนภาษาจีนกัน เด็กไทยถ้าเรียนในห้องเรียนก็ไม่ค่อยได้ผล ถ้ามีโอกาสที่ว่ามีครูแลกเปลี่ยนที่มาจากจีนมาสอน หรือว่า มีโอกาสได้พบเด็กจีนบ้าง การเรียนน่าจะดีขึ้น"
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพระราชทานพรด้วยสองภาษาทั้งไทยและจีนว่า "ขอให้คนไทยและคนจีนศึกษาจากกันและกัน และให้มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน เป็นเพื่อนกัน"
"ข้าพเจ้าหวังว่า คนไทยและคนจีนจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น"
(cai,zhou)