วันนอนหลับโลก
  2011-03-22 16:25:17  cri

ประเด็นดังกล่าวมาจากภาษาอังกฤษว่า open your eyes to sleep แปลตรงๆ ก็คือ เปิดตานอน แต่ประเด็นดังกล่าวไม่ใช่ให้เราเปิดตานอนจริงๆ แต่เพื่อให้เราเปิดตาโต มองเห็นถึงความสำคัญของการนอนหลับ และมีความสุขเมื่อนอนหลับดี

ประเด็นปี 2005 คือ ผู้หญิงสวยด้วยนอนหลับได้เต็มอิ่ม

ผู้หญิงทุกคนสนใจความสวยงามของผิว หุ่นและรูปร่างกันอย่างมาก รู้กันว่า การอดนอนนั้น ทำให้ดูโทรม ผิวเหี่ยว สมองเฉื่อยชา นอกจากจะไม่สวยแล้ว ยังอาจทำให้อ้วนขึ้นได้อีกต่างหาก ผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นว่า หลังจากขาดนอนเพียงไม่กี่วัน ฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหารจะทำให้คนเราหิวมากขึ้น ทำให้ผู้ที่นอนน้อยจะต้องกินมากกว่าผู้ที่นอนเยอะ

การนอนหลับอย่างพอเพียงจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการรักษาหุ่นให้ดี ผิวพรรณผ่องใส ข้อมูลจากนักวิจัยญี่ปุ่นว่า ผู้หญิงที่นอนคืนละ 5 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น มีแนวโน้มมากขึ้น 15% ที่จะเป็นโรคอ้วน เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่นอนวันละ 7 ชั่วโมง นักวิจัยติดตามเก็บข้อมูลน้ำหนักและพฤติกรรมการนอนของผู้หญิงเหล่านี้อยู่นานถึง 16 ปี ทีมนักวิจัยชุดเดียวกันมีรายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า ผู้ชายที่นอนวันละ 8 ชั่วโมงมีแนวโน้มน้อยลงครึ่งหนึ่งที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อเทียบกับคนที่นอนน้อยกว่านั้น

นอกจากนี้ การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารบริติช เจอร์นัล ออฟ แคนเซอร์ นำเสนอหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดว่า การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอมีความสำคัญต่อการปกป้องมะเร็งเต้านม

นักวิจัยในญี่ปุ่นได้ติดตามรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้หญิงเกือบ 24,000 คนนานถึง 8 ปี ซึ่งพบว่าคนที่นอนวันละ 5 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น มีแนวโน้มมากขึ้นถึง 62% ที่จะเป็นโรคมะเร็งเต้านม เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่นอนวันละ 7 ชั่วโมง ขณะที่ผู้หญิงนอนเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมงมีแนวโน้มน้อยลงที่จะเป็นมะเร็งดังกล่าว 28%

ปัญหาการนอนหลับประกอบด้วย การนอนหลับยาก นอนไม่พอ และนอนหลับไม่สนิท การนอนไม่หลับ จะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ อาจทำให้เกิดโรคทางกาย หรือทำให้โรคทางกายแย่ลง ส่วนทางจิตใจ ก็จะทำให้เกิดความไม่สบายใจ ความเครียด ไม่มีสมาธิในการทำงาน กลัวว่าจะเป็นโรคร้ายแรง หรือกลัวการนอนไม่หลับในวันถัดไป

ประเด็นวันนอนหลับโลกปี 2009 คือ บริหารการนอนตามหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อรณรงค์ให้วงการต่างๆ ในสังคมช่วยเผยแพร่ความรู้ด้านเสริมสุขภาพจิต เพื่อให้ทุกคนนอนหลับดี

ยุคปัจจุบันนี้ ผู้คนโดยทั่วไปมักจะให้ความสำคัญกับความสามารถในการทำงาน และทักษะในการคิดค้นสร้างสรรค์ จนกระทั่งทำให้บางคนทำงานเก่งมากหรือเรียกว่า บ้าทำงาน แต่ไม่มีเวลานอน หรือกลายเป็นคนที่บริหารการนอนไม่ได้ ผู้ที่นอนไม่หลับ มักพบร่วมกับอาการความเครียด ความไม่สบายใจ และเมื่อเริ่มนอนไม่หลับ ก็มักจะเริ่มรู้สึกกลัว และหมกมุ่นกับการนอนไม่หลับ พยายามบังคับให้ตนเองนอนให้หลับ โดยปกติ การนอนเป็นธรรมชาติบังคับไม่ได้ ทำให้การนอนในคืนถัดไปแย่ลงจากความกังวลของเราเอง เกิดเป็นวงจรแย่ลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การนอนไม่หลับรุนแรงมากขึ้น ถึงแม้บางครั้ง สาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับ จะหมดไปแล้วก็ตาม เพราะฉนั้น เราต้องเพิ่มความรู้และเรียนรู้วิธีการบริหารเรื่องการนอนตามหลักวิทยาศาสตร์

ส่วนประเด็นวันนอนหลับโลกปี 2011 นี้ คือ ให้ความสำคัญกับการนอนของวัยกลางคนและผู้สูงอายุ

ปัจจุบันจำนวนสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโลกทำให้สัดส่วนของประชากรกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้น ความสุของผู้สูงอายุขึ้นอยู่กับคุณภาพชีวิต แต่ผลสำรวจจากสถาบันวิจัยการนอนของจีนพบว่า 57.2%ของวัยกลางคนและผู้สูงอายุมีปัญหานอนหลับ

ทั้งนี้เพราะเมื่ออายุมากขึ้นย่อมมีปัญหาสุขภาพ คนเราก็เหมือนเครื่องจักร ถ้าซ่อมบำรุงดี เติมน้ำมันเสมอ ก็ใช้ได้นาน ช่วงเวลานอนเป็นช่วงที่ซ่อมบำรุงสุขภาพดีที่สุด ดังนั้น การแก้ปัญหาการนอนหลับไม่เพียงแต่มีส่วนช่วยต่อคุณภาพชีวิตและดัชนีความสุขของวัยกลางคนและผู้สูงอายุเท่านั้น หากยังเป็นผลดีต่อบรรยากาศครอบครัวด้วย

คิดดูว่า หากบ้านไหนมีผู้ใหญ่นอนไม่หลับ ย่อมส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจแน่นอน พร้อมด้วยอาการอ่อนเพลีย หงุดหงิด เครียด โกรธง่าย ทำให้บรรดาลูกหลานทั้งบ้านเป็นห่วงและกังวลทั้งครอบครัว

1 2 3
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040