เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทโคคา-โคล่าสหรัฐอเมริกาประกาศว่า จะส่งผลิตภัณฑ์โคคาโคล่าเข้ามาขายที่เมืองย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของเมียนมาร์ นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทโคคา-โคล่าส่งผลิตภัณฑ์กลับเข้าทำการตลาดเมียนมาร์ในช่วงกว่า 50 ปีนี้
นายมุห์ทาร์ เคนท์ ประธานคณะกรรมการบริหาร และซีอีโอบริษัทโคคา-โคลาได้เยือนย่างกุ้งในฐานะสมาชิก "คณะบุคคลดีเด่นสหพันธ์สหรัฐอเมริกา-ประเทศอาเซียน" แหล่งข่าวแจ้งว่า เขาได้ควบคุมดูแลการขนส่งผลิตภัณฑ์โคคาโคล่าครั้งแรกในเมียนมาร์ และได้ส่งมอบโคคาโคล่าจำนวนขวดหนึ่งให้ผู้จำหน่ายรายหนึ่งในท้องที่ด้วย นายมุห์ทาร์ เคนท์กล่าวว่า "บริษัทโคคา-โคล่ายินดีที่มีโอกาสใช้ความพยายามร่วมกับประชาชนเมียนมาร์ในการสร้างอนาคตที่สดใส"
บริษัทโคคา-โคล่าเข้าทำการตลาดในเมียนมาร์ตั้งแต่ปี 1927 และได้ดำเนินกิจการถึงปี 1960 หลังจากนั้น เกิดสถานการณ์เคลื่อนไหวในเมียนมาร์ และสหรัฐอเมริกาทำการคว่ำบาตรรัฐบาลทหารของเมียนมาร์อย่างเข้มงวด ได้จำกัดการลงทุนในเมียนมาร์ของบริษัทสหรัฐฯ ทางบริษัทโคคา-โคลาจึงถอนตัวออกจากตลาดเมียนมาร์ แต่อย่างไรก็ตามตลาดเมียนมาร์ยังมีการขายโคคาโคล่าอยู่ แต่ไม่ได้ขายตรงจากบริษัทโคคาโคลา แต่มาจากการนำเข้าจากประเทศไทย และสิงคโปร์ ราคาโคคาโคลาก็ค่อนข้างสูง ประมาณ 1 ดอลลาร์ต่อขวด เท่ากับรายได้ต่อวันของชาวเมียนมาร์ 1 คน
ขณะนี้ บริษัทโคคาโคล่ากำลังเจรจาเรื่องความร่วมมือกับบริษัทเมียนมาร์ เพื่อจำหน่ายโคคาโคล่า โค้กไลท์ และสไปรท์ไปยังท้องที่ต่างๆ ของเมียนมาร์ นอกจากนี้ สองบริษัทนี้ยังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะผลิตผลิตภัณฑ์โคคาโคล่าในเมียนมาร์ด้วย
แหล่งข่าวแจ้งว่า ในช่วง 3 ปีหน้า บริษัทโคคาโคล่าจะลงทุนในเมียนมาร์ค่อนข้างมาก โดยจะสร้างโอกาสการมีงานทำให้กับเมียนมาร์กว่า 2,000 ตำแหน่ง แต่ทว่า โฆษกบริษัทโคคาโคล่ากล่าวว่า ขณะนี้การกำหนดยอดการลงทุนในเมียนมาร์เป็นเรื่องที่ยังค่อนข้างรวดเร็วเกินไป แต่สิ่งที่แน่นอนคือ บริษัทโคคาโคล่าจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในเมียนมาร์ในช่วงหลายปีข้างหน้า
(Ying/cici)
