เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นวันธัญญาหารโลกครั้งที่ 32 โดยมีประเด็นปีนี้ว่า "สหกรณ์การเกษตรที่ดี สร้างความปลอดภัยด้านธัญญาหาร" และปีนี้ตรงกับปีสหกรณ์สากลด้วย องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่า ถ้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ผู้คนทุกหมู่เหล่าในสังคม และวงการวิชาการของประเทศต่างๆ สหกรณ์การเกษตรย่อมจะแสดงบทบาทมากยิ่งขึ้น และสร้างคุณูปการมากกว่านี้ในการขจัดความยากจนและความหิวโหย
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา นายโฮเซ่ กราเซียโน ดาซิลวา ผู้อำนวยการองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเน้นในพิธีเฉลิมฉลองวันธัญญาหารโลกที่สำนักงานใหญ่กรุงโรมว่า ประเทศต่างๆ ต้องใช้ความพยายามเพื่อขจัดความหิวโหยให้หมดสิ้น หลายประเทศในอเมริกาใต้ แอฟริกาและเอเชียต่างพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป้าหมายดังกล่าวสามารถประจักษ์เป็นจริงได้ นายดาซิลวากล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรเป็นรูปแบบสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรให้หลุดพ้นจากความยากลำบากและความอดอยาก มีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสการมีงานทำ ลดความยากจน เสริมความปลอดภัยด้านธัญญาหารให้ดีขึ้นและเพิ่มมวลรวมการผลิตภายในประเทศ ขณะเดียวกัน นายดาซิลวายังเร่งรัดให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ ดำเนินงานอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยพัฒนาสหกรณ์การเกษตร
จริงๆ แล้ว ประเทศผู้ผลิตธัญญาหารที่ใหญ่ที่สุดของโลก เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ที่เป็นประเทศพัฒนาแล้วนั้น สหกรณ์ล้วนมีบทบาทสำคัญในการผลิตด้านการเกษตร พร้อมกันนั้น สหประชาชาติหวังว่าจะมีการเผยแพร่ประสบการณ์ของประเทศพัฒนาไปสู่ประเทศกำลังพัฒนาอย่างกว้างขวาง และพยายามผลักดันการพัฒนาสหกรณ์การเกษตรในประเทศกำลังพัฒนา นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่สหประชาชาติจัดให้มีการทำสหกรณ์การเกษตรให้ดีเป็นประเด็นของวันธัญญาหารโลกปีนี้ เป็นการมุ่งที่จะเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเคารพและให้ความสำคัญแก่สหกรณ์การเกษตร หวังว่าประเทศสมาชิกจะกำหนดนโยบาย กฎหมายและกลไกส่งเสริมทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ ผลักดันให้สหกรณ์การเกษรและหน่วยงานจัดการผลิตพัฒนาเติบโตขึ้นอีก
(Ton/Ping)