การประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรปจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ สองปี ครั้งนี้จะเปิดประชุมที่กรุงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวระหว่างวันที่ 5 – 6 พฤศจิกายนนี้ ปัจจุบัน วิกฤตยูโรโซนยังคงไม่สิ้นสุด และมีความเสี่ยงจะส่งผลกระทบถึงเอเชียซึ่งเป็นเสมือนเครื่องยนต์ของเศรษฐกิจโลก ยังมีประเด็นร้อนด้านความมั่นคงแบบเดิมไม่ได้ลดน้อยลง ขณะที่ปัญหาด้านความมั่นคงนอกเหนือแบบเดิมได้ปรากฏขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทั้งเอเชียและยุโรปล้วนเผชิญกับการท้าทายจากโลกาภิวัตน์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวในภูมิภาค การขจัดความไม่สมดุลด้านการพัฒนาในภูมิภาค และการเดินข้ามความแตกต่างด้านสภาพความจริงในการพัฒนา วัฒนธรรมและระบอบสังคมของประเทศต่างๆ ได้กลายเป็นประเด็นร่วมกัน
การประชุมครั้งนี้กำหนดหัวข้อหลักว่า "สร้างสันติภาพร่วมกัน ส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนให้เจริญรุ่งเรือง(Peace good friend, prosperity and partnership)" ผู้นำและผู้แทนจาก 51 ประเทศและเขตแคว้นจะประชุมกันที่กรุงเวียงจันทน์เพื่อแสดงความเห็นภายใต้หัวข้อดังกล่าว
ประเด็นสำคัญอีกหนึ่งประการของการประชุมครั้งนี้คือ เศรษฐกิจและการเงินโลก ผู้นำของเอเชียและยุโรปจะใช้เวทีประชุมแลกเปลี่ยนความเห็นและนโยบายรับมือต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยจะเน้นย้ำความจำเป็นของการเติบโตทางเศรษฐกิจและการปรับปรุงสภาพการมีงานทำให้ดีขึ้น และหารือเกี่ยวกับการปฏิรุปในด้านการควบคุมบริหารเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ และต่อต้านลัทธิกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ
ภายใต้สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกยังไม่พ้นจากภาวะยากลำบากในปัจจุบัน การกระชับความร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรปให้ใกล้ชิดจึงสำคัญอย่างยิ่ง "รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก" ในครึ่งหลังของปี 2012 ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศเตือนว่า "วิกฤตในยูโรโซนยังคงเป็นภัยคุกคามชัดเจนที่สุดสำหรับอนาคตของเศรษฐกิจโลก"
นักวิเคราะห์เห็นว่า เศรษฐกิจเอเชียเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น ได้สร้างตลาดใหญ่สำหรับการฟื้นตัวของยุโรป ขณะที่ประเทศเอเชียก็ต้องการให้ตลาดยุโรปกระเตื้องขึ้นจากภาวะยากลำบาก นอกจากนี้ ความช่วยเหลือที่ยุโรปให้นั้นยังคงมีความสำคัญสำหรับบางประเทศขนาดเล็กและประเทศด้อยพัฒนาในเอเชีย เพราะเอเชียต้องการนำเข้าเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากยุโรปอย่างต่อเนื่อง
การประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรปครั้งนี้จะรับสมาชิกใหม่อีก 3 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ สวิสเซอร์แลนด์และนอร์เวย์ ทำให้กลไกการประชุมเอเชีย-ยุโรปมีทั้งหมด 51 ประเทศสมาชิก และมีประชากรเกือบ 60% ของประชากรโลก มูลค่ารวมทางเศรษฐกิจก็มีกว่าครึ่งหนึ่งของยอดมูลค่าของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น การประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรปจะมีอิทธิพลมากยิ่งขึ้นบนเวทีภูมิภาคและเวทีโลก
Ying/feng