ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา พื้นที่ต่างๆ ของจีนพากันประกาศดัชนีความสุข จนบางคนชักสงสัยว่าจะนำดัชนีความสุขมาทดแทนจีดีพีหรือ
นายหม่า เจี้ยนถาง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติให้คำตอบว่า"เราต้องการก้าวล้ำจีดีพี ไม่ใช่ทอดทิ้ง" การที่เืมืองต่างๆ ของจีนให้ความสำคัญกับความสุขของประชาชนนั้นสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลพยายามปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชน เพราะหลังจากแก้ปัญหาปากท้องในขั้นพื้นฐานแล้ว ประชาชนก็จะหันมาให้ความสำคัญกับความต้องการทางจิตใจมากขึ้น รูปแบบเก่าของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ความสำคัญกับด้านนี้ไม่เพียงพอ จึงต้องการปรับเปลี่ยน ขณะนี้ ยอดจีดีพีของจีนได้พัฒนาขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องใส่ใจในความสุขของประชาชนมากขึ้น
แนวคิดนี้ก็สอดคล้องกับกระแสนิยมของโลก โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การประชุมสมัชชาสหประชาชาติลงมติกำหนดให้วันที่ 20 มีนาคมของทุกปีเป็น"วันแห่งความสุขโลก" มติฉบับนี้ระบุว่า "การมุ่งหาความสุขเป็นเป้าหมายพื้นฐานของมนุษย์ ความผาสุกเป็นเป้าหมายและความปรารถนาทั่วไปของมวลมนุษยชาติ การยอมรับความสำคัญของเรื่องนี้และกำหนดให้เป็นเป้าหมายของกิจการเพื่อสาธารณประโยชน์มีความสำคัญมาก"
และความสำคัญอีกอย่างหนึ่งของดัชนีความสุขคือ ช่วย"วินิจฉัย"ว่าการทำงานของรัฐบาลมีปัญหาอะไรบ้าง
ว่าไปแล้วต่อให้รัฐบาลจะเพียบพร้อมด้วยความสามารถอย่างไร ก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านความสุขของประชาชนทุกคนได้ และก็ยากที่จะสร้างเครื่องวัดหรือประเมินความมากน้อยของความสุข แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ ต้องมีทัศนะการบริหารสังคมอย่างถูกต้อง พยายามสร้างสังคมที่เที่ยงธรรมและเสมอภาค และให้ความาำคัญกับสิทธิประโยชน์พื้นฐานของประชาชน เพราะไม่ว่าการพัฒนาสังคมหรือความก้าวหน้าของประเทศ ล้วนต้องถือความต้องการของคนเป็นเป้าหมาย การกำหนดนโยบายต่างๆ ต้องถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เช่นเดียวกับคำกล่าวของนายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีและเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมอวนิสต์จีน ในการประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิวต์แห่งประเทศจีนว่า"ต้องถือความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ถือการพัฒนาในทุกๆ ด้านของประชาชนเป็นเป้าหมาย พยายามตอบสนองความต้องการทั้งวัตถุและจิตใจของประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาประเทศกันถ้วนหน้า"
สังคมแห่งความสุขไม่ใช่ิสิ่งเร้นลับ ถึงแม้ขณะนี้ ความสุขเป็นเพียงความรู้สึกที่อาจโผล่ขึ้นเป็นครั้งคราว หรือเป็นแค่ความฝันสำหรับบางคน แต่เชื่อว่า ตราบใดที่สิทธิประโยชน์ของประชาชนได้รับการเคารพอย่างเต็มที่ ความเที่ยงธรรมและความเสมอภาคเท่าเทียมกันของสังคมได้รับการปกป้องรักษาอย่างดี "สังคมที่มีความสุข"ก็จะอยู่ไม่ไกลกับเรา