ผู้นำของอาเซียนตกลงจะกำหนดเวลาจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2015 ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการของจีนและอาเซียนต่างแสดงว่า เมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจัดตั้งแล้วเสร็จ จะเป็นการเสริมกับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน และขยายตลาดให้กว้างขึ้น
ปีหลังๆนี้ ต้นทุนแรงงานของจีนเพิ่มสูงขึ้น จึงบังคับให้ธุรกิจการผลิตต่างๆ รวมถึงด้านเสื้อผ้าและรองเท้า เป็นต้น ต้องย้ายไปสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศอาเซียนบางประเทศก็เริ่มกลายเป็น "โรงงานแปรรูป" แทนจีน หลังจากบริษัทไนกี้ ปิดโรงงานผลิตรองเท้าแห่งสุดท้ายในจีนเพียงแห่งเดียวเมื่อปี 2009 บริษัทอาดิดาส ก็วางแผนจะย้ายโรงงานการผลิตในเมืองซูโจวของจีนไปสู่เมียนมาร์ นอกจากนี้ มีสื่อมวลชนไทยรายงานเมื่อเร็วๆนี้ว่า บริษัทผลิตรถยนต์วอลโว่ ก็จะย้ายโรงงานจากจีนไปสู่ไทยเพื่อประหยัดต้นทุน
แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นว่า เรื่องแบบนี้อาจมิใช่เรื่องไม่ดี นักเศรษฐศาตร์จากศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศอินโดนีเซียกล่าวว่า วิสาหกิจจีนสามารถจัดตั้งโรงงานผลิตสินค้าหรือศูนย์บริการคนละชนิดในประเทศต่างๆ ตามความได้เปรียบของแต่ละประเทศในอาเซียน ผู้อำนวยการหอการค้าจีนของอินโดนีเซียนยกตัวอย่างว่า วิสาหกิจจีนสามารถจัดตั้งโรงงานผลิตด้านอาหารหรือการเกษตรในไทย และตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในอินโดนีเซีย ส่วนสินค้าที่ผลิตออกมานั้น ยังสามารถจำหน่ายในตลาดทั้งอาเซียนได้ด้วย
นักวิชาการเห็นว่า ปัจจุบัน วิสาหกิจญี่ปุ่น และเกาหลีใต้นำหน้าจีนอยู่ ดังนั้น วิสาหกิจจีน โดยเฉพาะด้านการผลิตควรฉวยโอกาสอย่างเร่งด่วน เร่งการวางแผนในอาเซียน เพื่อแสวงหาการพัฒนาร่วมในตลาดนาดใหญ่ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
Sun/Ton