เมื่อเร็วๆ นี้ ภายหลังเกิดเหตุการณ์นายไมเคิล พาล์มเมอร์ ประธานรัฐสภาของสิงคโปร์ มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพนักงานหญิงคนหนึ่ง ทำให้ประชาชนสิงคโปร์เกิดความรู้สึกต่อต้านต่อข่าวชู้สาว โดยเฉพาะข่าวชู้สาวของเจ้าหน้าที่ราชการเป็นอย่างมาก

นายไมเคิล พาล์มเมอร์เข้าดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาหลังการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นในปีที่แล้ว นับเป็นประธานรัฐสภาที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ และถือเป็นนามบัตรโฆษณาอย่างดีของพรรคปฏิบัติการประชาชนหรือพีเอพีซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสิงคโปร์ แต่จากสภาพการณ์ในปัจจุบันที่บีบบังคับทำให้ต้องลาออกจากการเป็นสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกพรรคฯ จึงนับเป็นการสูญเสียสำคัญของพรรคด้วย แต่คงไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเป็นพรรครัฐบาลมากนัก เพราะว่าตั้งแต่ปี 1959 ที่พรรคปฏิบัติการประชาชนชนะการเลือกตั้งทั่วไปและเข้าบริหารอำนาจรัฐเป็นต้นมา มีรากฐานหนักแน่นมาก ส่วนพรรคฝ่ายค้านก็ไม่ได้ถือเรื่องนี้ในการประณามโจมตีพรรครัฐบาล เพราะว่าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สมาชิกสภาคนหนึ่งของพรรคกรรมกรซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่สุดในรัฐสภา ก็ถูกเปิดโปงว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเช่นกัน และถูกไล่ออกจากพรรคกรรมกร ตลอดจนสูญเสียสิทธิ์การเป็นสมาชิกรัฐสภาด้วย

นายลี เซียน ลุง เลขาธิการพรรคปฏิบัติการประชาชน นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า "สมาชิกสภาของพรรคปฏิบัติการประชาชนทั้งหมด ต้องมีมาตรฐานในเรื่องคุณธรรมโดยส่วนตัวอย่างสูงสุด โดยเฉพาะในยามต้องติดต่อและสัมผัสกับประชาชนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงและเจ้าหน้าที่ทั่วไป ส่วนพรรคฯ ก็ต้องตรวจสอบและบังคับให้สมาชิกปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้" นายเตียว จี เฮียน หัวหน้าผู้ช่วยเลขาธิการพรรคปฏิบัติการประชาชน รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ก็กล่าวว่า พรรคปฏิบัติการประชาชนจะพยายามคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งอย่างละเอียดด้วยความระมัดระวัง โลกนี้ยังไม่มีระบบคัดเลือกที่มีความสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซนต์ แต่สิ่งที่สำคัญคือ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ต้องจัดการอย่างเฉียบขาด ถูกต้องและเปิดเผย

(Yim/Lin)