เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:ขนมหวาน-อาหารขยะกับโรคกระดูกติดเชื้อในเด็ก
  2013-01-11 15:30:55  cri

ปัจจุบันผู้คนในสังคมต่างรับรู้และตระหนักกันดีว่า "อาหารขยะ" อย่างอาหารฟาสต์ฟู้ด ของทอดหมักดอง น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ เป็นของที่ทานอร่อยปากแต่ไร้คุณประโยชน์ต่อร่างกายโดยเฉพาะกับเด็กๆ เพราะการชอบทานขนมหวานและอาหารขยะเหล่านี้ นอกจากจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ไม่พอเพียง ยังมีผลต่อการพัฒนาสมอง ระดับไอคิวของเด็กลดต่ำลงด้วย รวมถึงนำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ ตั้งแต่ที่ได้ยินกันคุ้นหูอย่าง โรคเบื่ออาหาร โรคอ้วนและขาดสารอาหารในเด็ก ยังนำไปสู่โรคร้ายที่หลายคนอาจไม่คุ้นหูอย่าง "โรคกระดูกอักเสบเป็นหนอง" อีกด้วย

 

หลี่เหวยเจ๋อ เป็นเด็กชายชาวเมืองเซียนถัน มณฑลหูหนาน วัย 12 ปีถือเป็นช่วงชีวิตวัยเด็กที่น่าจะมีความร่าเริงสดใส ได้กระโดดโลดเต้นวิ่งเล่นไปมากับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนาน แต่พ่อหนูกลับต้องนั่งเอนหลังอยู่กับบ้านเฉยๆ เพราะนิสัยชอบทานแต่ขนมขบเคี้ยว เลือกทาน ทำให้ขาดสารอาหาร ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ จนนำไปสู่โรคกระดูกอักเสบเป็นหนองที่กระดูกต้นขาขวา

ย้อนกลับไปวันหนึ่งเมื่อต้นปีก่อน เสียวหลี่จู่ๆ ทรุดนั่งลงในลิฟต์ร้องโอดโอยว่าปวดขา แม่ของเสียวหลี่นึกเพียงว่าลูกเพิ่งเข้าร่วมกิจกรรมแข่งขันกีฬาที่โรงเรียน คงทำให้กล้ามเนื้ออักเสบไม่ได้ติดใจอะไรมาก ผ่านไปไม่กี่วันพ่อหนูก็ร้องครวญครางว่าเจ็บขึ้นมาอีก พ่อกับแม่ก็ไปหายามาทานวดให้ก็ไม่หาย ร้องทรมานอยู่บนเตียงไม่หยุด พ่อกับแม่เห็นท่าไม่ดีผิดปกติแล้วจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล

 

ผลการตรวจวินิจฉัยของแพทย์ระบุว่า เสียวหลี่ป่วยเป็นโรคกระดูกอักเสบเป็นหนองเฉียบพลัน แนะนำว่าให้ผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แม้สภาพทางเศรษฐกิจของครอบครัวจะไม่ดีนัก แต่พ่อแม่ของเสียวหลี่ก็พยายามหาทางหยิบยืมเงินมาจนได้ และนำลูกเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกลางประจำเมืองเซียงถัน ทำให้สภาพการณ์ของโรคจากแบบเฉียบพลันผันเปลี่ยนเป็นแบบเรื้อรัง แพทย์ว่าหากมาช้ากว่านี้อีกอาทิตย์เดียว ยากที่จะรักษาขาขวาของเด็กไว้ได้แล้ว

ทางโรงพยาบาลแจ้งสาเหตุที่มาที่ทำให้เสียวหลี่ป่วยเป็นโรคนี้ว่า เป็นเพราะเด็กมีโภชนาการไม่สมดุล พ่อของเสียวหลี่เมื่อรับรู้ก็รู้สึกเสียใจยิ่งบอกว่า เพราะลูกเลือกทานอาหาร ชอบทานแต่พวกขนมขบเคี้ยวขนมหวานมาตั้งแต่เล็กจนโต เงิน 5 หยวนที่พ่อกับแม่ให้เสียวหลี่ติดตัวไปโรงเรียน นอกจากนำไปซื้อซาลาเปาลูกละหนึ่งหยวนทานเป็นอาหารเช้าแล้ว ที่เหลือลูกนำไปซื้อขนมห่อทานเล่นแล้วก็น้ำอัดลมดื่ม พอกลางวันและเย็นกลับมาบ้านก็ไม่ยอมทานข้าว พอพ่อกับแม่ตักข้าวหรือกับเพิ่มให้เป็นต้องฝุบหน้าลงกับโต๊ะร้องโวยวายไม่หยุด ทำให้ไม่ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ตอนนี้เสียวหลี่สูง 1.55 เมตร แต่น้ำหนักตัวแค่ 30 กว่ากิโลกรัมเท่านั้น

 

หลังจากป่วยเป็นโรคดังกล่าว ขาขวาของเสียวหลี่ก็ไม่ยาวขึ้นอีกเลย ตอนนี้ขาทั้งสองข้างสั้นยาวต่างกันเกือบ 10 เซนติเมตร พ่อของเสียวหลี่ว่าเขากังวลและกลัวมากว่าอาการของโรคจะเลวร้ายลง ต่อไปการเดินของลูกอาจต้องผิดปกติ...

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040