ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นสนใจและเดินทางมาชมการจับปลาฤดูหนาวที่ทะเลสาบฉากัน สื่อมวลชนต่างๆ ก็รายงานกิจกรรมนี้เวลาถึงฤดูการจับปลาทุกปี ทะเลสาบฉากันมีชื่อเสียงมากทั้งจีนและต่างประเทศ แต่ชาวประมงทะเลสาบฉากันไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไร ยังคงดำรงชีวิตแบบเก่าเช่นเดิม

ทะเลสาบฉากันมีทีมจับปลาทั้งหมด 5 ทีม ทุกทีมมีสมาชิกกว่า 60 คน หัวหน้าทีมเรียกว่า "อวี๋ป่าโถว" ซึ่งเป็นคนที่สำคัญที่สุดในการกำกับดูแลกระบวนการจับปลา นายสือ เป่าจู้ ก็เป็น "อวี๋ป่าโถว" คนหนึ่ง ซึ่งเริ่มเป็นชาวประมงตั้งแต่อายุ 15 ปีเมื่อปี 1960 เขาอธิบายว่า การเลือกสถานที่ การเจาะรู การวางแห การดึงแหและการจับปลา ทั้งหมดนี้ดูเหมือนเป็นงานใช้แรงอย่างง่าย แต่จริงๆ ต้องการประสบการณ์และเทคนิคอย่างมาก ชาวประมงที่มีประสบการณ์สามารถตัดสินใจว่า วางแหที่ไหน เมื่อไร สามารถจับปลาได้เยอะ จากสีของน้ำแข็ง ชาวประมงนิยมดื่มเหล้า เพื่อต่อต้านความหนาวเหน็บและเพิ่มความกล้าหาญ เพราะการจับปลาก็เป็นงานหนักและมีอันตราย

ปัจจุบัน ปลาของทะเลสาบฉากันมีชื่อเสียงมาก และได้ส่งไปขายตามมณฑลต่างๆ ของจีน เพราะปลาตัวใหญ่ และจับขึ้นมาแล้วก็แข็งทันที ทำให้รสชาติอร่อยกว่าปลาจากท้องที่อื่นๆ นักท่องเที่ยวมากมายก็หลั่งไหลเข้ามา เพื่อจะชิมปลาทะเลสาบฉากัน ปลาของทะเลสาบฉากันราคาค่อนข้างสูง จะอยู่ที่ประมาณ 100 หยวนต่อกิโลกรัม แต่ผู้คนยังแย่งกันซื้ออย่างคึกคัก ร้านอาหารที่นี่เมื่อทำปลาจะใส่พืชชนิดหนึ่งที่มีรสชาติพิเศษ ทำให้ปลาอร่อยและสดอ่อนเป็นพิเศษ

ประเพณีจับปลาของทะเลสาบฉากันครั้งนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมปี 2012 ซึ่งจะดำเนินต่อเนื่องกันถึงวันที่ 18 มีนาคมปี 2013 รวมถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะปีนี้อากาศหนาวที่สุดในรอบ 27 ปี ดังนั้นกิจกรรมจะดำเนินยาวกว่าปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่วางแผนจะมาชมการจับปลาและท่องเที่ยวที่ทะเลสาบฉากัน ต้องเตรียมตัวให้ดี ต้องสวมใส่เสื้อกันหนาวหนาๆ เพราะปีนี้อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -30 เซลเซียส โดยเฉพาะบริเวณทะเลสาบจะหนาวกว่าในตัวเมืองอีก ความหนาวเหน็บของภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เหมือนกับที่กรุงปักกิ่ง บางคนเปรียบว่า ถ้าไม่ใส่ผ้าพันคอ ลมพัดมาก็เหมือนมีดบาดหน้า แต่เมื่อหนาวขนาดนี้ น้ำแข็งในทะเลสาบก็ยิ่งแข็งแรงมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะตกลง แต่ถ้าขับรถเดินทางเอง ต้องแล่นตามเส้นทางที่ชาวมองโกลจัดไว้ด้วยธงหลากหลายสี ซึ่งจะทำให้ปลอดภัยมากขึ้นและจะไม่หลงทางด้วย