จีนปริทรรศน์:กล้าที่จะเปลี่ยน
  2013-02-04 16:54:19  cri

การกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ นอกจากได้มีโอกาสเยี่ยมเยียนเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนสนิทเก่าๆ ในกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีนัดหมายไปหาเกลอเก่าครอบครัวหนึ่งที่จู่ๆ ก็ตัดสินใจโยกย้ายตัวเองไปอยู่อุดรธานี ทั้งนี้อยากจากความคิดถึงแล้ว ก็มีความอยากรู้จากปากเพื่อนโดยตรงที่ผลักให้ไปยืนอยู่หน้าช่องขายตั๋วรถทัวร์สายอีสาน

ก่อนหน้านี้ "เด่น" เคยทำงานเป็นฝ่ายประสานงานเครือข่ายพุทธศาสนาโลก จัดงานสำคัญๆ ต่างๆ มามากมายในหลายประเทศ ก่อนหน้านี้สมาคมพุทธศาสนาของไต้หวันก็เชิญไปทำงานประจำ แต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวหลายประการ ทั้งลูกที่ยังเล็ก บุพการีก็แก่ชรา อีกทั้งในจำนวนพี่น้องทั้งสามคนก็การงานไม่อำนวยให้กลับไปดูแลพ่อแม่และผืนนาได้ เด่นจึงอาสาตัดสินใจกลับมาตั้งหลักที่บ้าน

แต่การที่จะถอนตัวเองออกจากกรุงเทพฯ ทั้งครอบครัวย่อมไม่ง่าย ในช่วงแรกเขาจึงขึ้นลงกรุงเทพฯ – อุดรฯ อยู่พักใหญ่ เพื่อเตรียมบ้านพัก ไร่นา จัดหาโรงเรียนให้ลูกชายที่กำลังจะถึงวัยเรียน และที่สำคัญคือตระเตรียมอาชีพที่จะเป็นช่องทางรายได้หลักให้ครอบครัว เพราะจะหวังพึ่งการเป็นผู้ประสานงานและที่ปรึกษาของกลุ่มศานาแบบเดิมอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะบ้านไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวงของประเทศอีกต่อไปแล้ว

แรกทีเดียวเด่นกะจะกลับไปทำนาแบบเต็มตัว เพราะมีจำนวนที่นาอยู่มาก ซึ่งคำนวนดูแล้ว หากได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็น่าจะทำเงินให้กับครอบครัวมากโขอยู่ทีเดียว แต่ก็มาสำนึกตัวเองได้ว่าไร้ประสบการณ์ ทั้งความรู้ และความแข็งแรงของร่างกาย ไม่เหมือนชาวบ้านที่เกิดมาเป็นชาวนาอย่างแท้จริง การที่จะทุ่มเงินออมที่มีอยู่หมดไปกับงานที่เรายังไม่คุ้นเคย จึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป

สุดท้ายเด่นจึงเริ่มต้นในลักษณะกึ่งทดลองเสียก่อนในพื้นที่เพียงไม่กี่ไร่ และยังทดอลงปลูกแบบปลอดสารพิษที่ชาวบ้านแถวนั้นไม่คุ้นเคยกันด้วย

 

ระหว่างนี้เขาก็มองหางานที่สามารถสร้างรายได้รายวันมาจุนเจือครอบครัว หลังจากไปยืนพินิจพิเคราะห์พื้นที่หน้าบ้านข้างเล้าข้าวเก่าที่ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้อยู่พักใหญ่ ก็เกิดไอเดียว่าควรสร้างโรงปลูกเห็ดน่าจะเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด เพราะลงทุนไม่มากในการสร้างโรงเรือน ราคาค่าก้อนหัวเชื้อเห็ดก็ไม่ได้แพงมาก ทั้งสามารถสามารถเก็บได้หลายครั้ง และเมื่อก้อนเชื้อเห็ดเสื่อมคุณภาพแล้วก็ยังสามารถเอาเศษขี้เลื่อยในถุงเหล่านี้ไปใส่เป็นปุ๋ยให้กับทุ่งนาได้ด้วย

ที่สำคัญคือภรรยาของเด่นก็จบวิชาการเกษตรมาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งน่าจะรื้อฟื้นมาช่วยเหลือกันได้มาก โดยเฉพาะความรู้ในการดูแลเพาะเห็ด ซึ่งค่อนข้างมีลักษณะที่เป็นวิทยาศาสตร์สูง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในโรงเรือนเพื่อสร้างบรรยากาศที่พอเหมาะให้เห็ดมีผลผลิตที่ดี การต้องคอยดูแลเอาใขใส่ก้อนเห็ดที่ถูกเชื้อแบ็กทีเรียรุกราน

และด้วยความที่ร่ำเรียนมาทางด้านการบริหารจัดการ เด่นจึงคิดถึงการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเองตั้งแต่แรกเริ่มด้วยการนำเอาเห็ดนางฟ้าพันธุ์เนปาลมาเพาะ เพราะว่าให้ดอกที่ใหญ่กว่า มีความกรุบกรอบกว่าเมื่อได้ลิ้มลอง ซึ่งในท้องถิ่นยังไม่มีคู่แข่ง เป็นการสร้างการตลาดแบบเฉพาะขึ้น

นอกจากนี้ เด่นยังวางแผนเรื่องการจัดจำหน่ายไว้ล่วงหน้าด้วย

ซึ่งเรื่องนี้เกษตรกรส่วนมากไม่ได้คิดเผื่อไว้ บางคนก็ปลูกตามเพื่อน เริ่มทำตามที่ได้ยินมาว่าดี แต่ไม่ได้มองหาลู่ทางการขายมารองรับ

แม้เด่นจะเป็นเกษตรกรมือใหม่ แต่เรื่องการสร้างมูลค่าสินค้านั้นเขากลับมีความได้เปรียบ แรกทีเดียวก็อาศัยเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายด้วยกันช่วยรับซื้อไปใช้ในร้านหมูกระทะซึ่งมีหลายสาขาในอุดรฯ

เมื่อโรงเรือนแรกทำผลิตได้ดี เด่นก็เพิ่มโรงเรือนขึ้นมาอีก 4 โรง ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าโรงแรกที่เป็นขนาดมาตรฐานเล็กน้อยตามสภาพพื้นที่ โดยเอาที่นาแปลงหนึ่งไปค้ำเงินกู้ธนาคารออกมาลงทุน เพราะโรงเห็ดเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่งแล้วจะต้องมีการพัก รื้อถุงเห็ดเก่าๆ ทั้งหมดทิ้งไป เปิดผนังผ้าแสลนทั้ง 4 ด้านขึ้นให้หมด เพื่อกำจัดความชื้อและเชื้อรา เชื้อแบ็กทีเรียต่างๆ

เมื่อเพิ่มโรงเรือน ผลผลิตก็เพิ่มมากขึ้น เด่นบอกว่าต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 ตี 4 ทุกวัน จนหลังๆ ต้องจ้างคนงานมาช่วยเก็บบ้างแล้วในวันไหนที่เห็ดออกพร้อมกันมากๆ

เมื่อเห็ดออกมาก เด่นก็จำต้องหาตลาดมารองรับเพิ่มเติม โดยการเอาไปเสนอขายในตลาดทั้งที่อุดรฯ และหนองคาย รวมถึงลูกที่เป็นแม่ค้าปลีกประปรายด้วย

เรื่องนี้เด่นเล่าว่า จุดเด่นของเห็ดจากฟาร์มบ้านของเขานั้น นอกจากดอกใหญ่น่ารับประมานแล้ว แพ็กเกจจิ้งหรือหีบห่อก็สำคัญ ก่อนส่งเด่นและภรรยาจะมานั่งช่วยกันเรียงให้ดอกเห็ดหงายขึ้นเหมือนๆ กัน แต่ละช่อจะชิดกันอย่างเป็นระเบียบ สาเหตุก็เพราะว่าเขาเคยไปเห็นเจ้าอื่นที่ส่งเห็ดมาที่ตลาด ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้พิถีพิถันในเรื่องนี้ ขอแต่ใส่มาให้เต็มกิโลฯ เป็นใช้ได้เท่านั้น พอจะเอาออกขายก็ปรากฎว่ามีดอกงามๆ หักไปไม่น้อย ดังนั้นการเรียงอย่างดีของเด่น จึงทำให้แม่ค้าชอบใจมาก

นอกจากนี้ที่บอกว่ามีแม่ค้าปลีกมาซื้อประปรายนั้นก็เพราะว่า เวลาเอาเห็ดไปส่งนั้นต้องจอดรถที่หน้าตลาด ระหว่างทางเดิน เด่นก็จะอุ้มให้ถุงเห็ดหงายเชิดอวดความสวยงามไประหว่างทาง เสมือนหญิงสาวที่สวยบริสุทธิ์ ใครได้พบเห็นก็เป็นต้องเสมองและหลงใหล ดังนั้นหลังจากเดินผ่านไม่กี่วันก็มีออร์เดอร์แซมเพิ่มขึ้นมา จนเห็ดงอกไม่ทันเลยทีเดียว

เด่นบอกว่าวันไหนเห็ดออกเยอะๆ ก็รับไปเหนาะๆ มากกว่า 2,000 บาท

บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ เพราะนาที่ทดลองทำนั้นให้ผลตอบแทนที่ดีเกินคาด จนปีนี้ได้ข้าวเต็มเล้า(ยุ้ง) ทั้งที่ทำในพื้นที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง รายได้เช่นนี้ในต่างจังหวัดถือว่าดีมากทีเดียว ที่สำคัญยังได้ดูแลครอบครัวอย่างใกล้ชิดมากขึ้นด้วย

"บางวันก็ได้ 150 ก็มีนะ เพราะเห็ดไม่ออกเลย ก็ต้องยอมรับว่าเรายังมือใหม่ ต้องเรียนรู้กับมันไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เพิ่มเห็ดหูหนูเข้ามาด้วย ออกเมื่อไรก็ขายหมดทันทีเหมือนกัน" เด่นพูด

ส่วนเรื่องขายเด่นก็ไม่ห่วง เพราะมีจุดแข็งอยู่ที่ความสดของเห็ดที่มากกว่าเจ้าอื่นๆ ที่ขายส่งในตลาด อย่างน้อยก็ประมาณ 2 ชั่วโมงของการเดินทางไปอยู่บนแผง

แถมวันไหนจะเข้าหนองคายไปดูไร่นาก็จะโทรไปหาแม่ค้าที่ตลาดหนองคายที่รับปากไว้ว่าจะซื้อเท่าไรก็ได้ เท่าที่เด่นแบกดิลิฟเวอรี่ไปขายให้ได้ เพราะถูกกว่าซื้อจากพวกคนกลางตั้งเป็นเท่าตัว

เด่นบอกว่าตอนนี้ก็ราวๆ 7 เดือนแล้ว ที่เขาและครอบครัวย้ายมาอยู่ที่นี่แบบเต็มตัว ไม่รวมที่ตัวเองขึ้นลงเตรียมการก่อนหน้านี้

ถามว่าอยู่ได้ไหม

เด่นบอกว่า "อยู่ได้แล้ว" และทุกอย่างก็ลงตัว เวลาหลับนอนพักผ่อนก็ปรับเปลี่ยนไปโดยปริยาย ซึ่งก็เข้ากับลูกเล็กของเขาด้วย เพราะเก็บเห็ดเสร็จก็เป็นเวลาพาไปโรงเรียนพอดิบพอดี บ่ายก็กลับมางีบสักหน่อย สั่งคนงานบ้างเล็กน้อย นั่งคุยกับพ่อและแม่บ้าง เขารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองกำลังงอกงามในแผ่นดินบ้านเกิดของตัวเอง เหมือนเห็ดดอกโตๆ ที่เขาเด็ดขายทุกเช้า

แม้วันนี้จะไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้งเหมือนเคย แต่เขาก็มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ทุกคนที่อยู่รอบข้างก็คอยให้กำลังใจ ว่าถ้าไม่ไหวก็ให้บอกได้ตลอดเวลา ให้ถือเสียว่าชั่วขณะนี้เป็นการพักร้อนจากงานที่รัดตัวและเคร่งเครียดตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

แต่แววตาที่เด่นเล่าถึงกระบวนการต่างๆ ของการสร้างผลผลิตของเขานั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิ อีกทั้งน้ำเสียงที่จริงจังมั่นใจก็บอกความหมายชัดเจนแล้วว่า นี่แหละชีวิตของเขา ณ วันนี้ ชีวิตจริงๆ ที่ไม่ใช่การพักร้อนแต่อย่างใด

เพราะเมื่อโรงเห็ดของเขาอยู่ตัวแล้ว ไร่นาสวนผสมที่หมายมั่นปั้นมือจะดำเนินตามรอยพระราชดำริยังยืนรอท้าทายอยู่เบื้องหน้าให้เขาได้ลุยต่อ

วันนี้ที่ผมได้มีโอกาสเห็นเขากับตาตัวเอง และเห็นงานที่เขาทำอย่างมุ่งมั่น เป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าไม่มีอะไรต้องห่วงเพื่อนคนนี้อีกแล้ว

คนที่กล้าเปลี่ยนโดยไม่ขลาดกลัวกับความเสี่ยงและความไม่มั่นคงเช่นนี้ ย่อมได้มาซึ่งความสำเร็จอย่างแน่นอน

สำคัญคือต้องตระเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสรรพ ซึ่งหากจะยึดเด่นเป็นตัวอย่างก็ย่อมได้ เพราะจุดเปลี่ยนของเขานั้นอยู่ที่ความกล้าที่จะสร้างแตกต่างขึ้นมาให้ได้ และพร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู่อยู่ตลอดเวลา

พัลลภ สามสี

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040