เช้าวันที่ 22 มีนาคมนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางออกจากปักกิ่งไปเยือนรัสเซีย แทนซาเนีย แอฟริกาใต้ และคองโก และจะเข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 5 ของผู้นำกลุ่มประเทศบริคซ์ การเยือนยุโรปและแอฟริกาเป็นเวลา 9 วันครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่นายสี จิ้นผิงเดินทางออกจากจีนและขึ้นเวทีการเมืองโลกหลังจากเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นต้นมา

การเยือนต่างประเทศคครั้งแรกของผู้นำสูงสุดจีนคนใหม่ดึงดูดความสนใจของประชาคมโลก ซึ่งถือว่าเป็นการบอกแนวทางของนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลชุดใหม่ เส้นทางการเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงข้ามผ่านเอเชีย ยุโรปและแอฟริกา มีเนื้อหาครอบคลุมหลายปัจจัยและหลายปริมณฑล อาทิ การเยือนประเทศใหญ่ ประเทศรอบข้าง ประเทศกำลังพัฒนาและความสัมพันธ์แบบทวิภาคี เป็นต้น

ปีหลังๆ นี้ ผู้นำจีนและรัสเซียต่างถืออีกฝ่ายหนึ่งเป็นประเทศแรกของการเยือนทางรัฐกิจหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งแล้ว นายสี จิ้นผิงก็ได้สืบทอดประเพณีนี้ด้วย ดังนั้น มีผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเปรียบเทียบว่า ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับรัสเซียต่อเชื่อมกันอย่างไม่มีรอยต่อ แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงและความต่อเนื่องของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

รายงานข่าวแจ้งว่า การเยือนครั้งนี้ ผู้นำจีนและรัสเซียจะประกาศแถลงการณ์ร่วม โดยกำหนดทิศทางการพัฒนาของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและโครงการความร่วมมือที่สำคัญในระยะเวลาข้างหน้า อีกทั้งการบรรยายข้อเสนอเกี่ยวกับปัญหาสำคัญระหว่างประเทศและส่วนภูมิภาคที่สำคัญจำนวนหนึ่ง ส่วนหน่วยงานและวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องของจีนและรัสเซียก็จะลงนามเอกสารความร่วมมือหลายฉบับ นอกจากการประชุมแล้ว ผู้นำจีนและรัสเซียยังจะร่วมกันเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ พิธีเปิด "ปีการท่องเที่ยวแห่งจีน" ของรัสเซีย และสิ่งที่่สนใจ คือ เมื่อเร็วๆ นี้ จีนและรัสเซียมีความรับรู้ร่วมกันเชิงหลักการหลายด้าน อาทิ รัสเซียจะเพิ่มการสนองน้ำมันปิโตรเลียมแก่จีน การสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นทางตะวันออก ก็ประสบผลคืบหน้าสำคัญด้วย ซึ่งทั้งสองประเทศอาจจะบรรลุข้อตกลงระหว่างการเยือนรัสเซียครั้งนี้ของนายสี จิ้นผิง

(Yim/Lin)