คำแถลงระบุว่า หากเกาหลีใต้ประสงค์จะเจรจากับเกาหลีเหนืออย่างจริงจัง ก็ควรหยุดพฤติกรรมข่มขู่ท้ารบต่อเกาหลีเหนือและสัญญาว่าจะไม่จัดการซ้อมรบที่มุ่งก่อสงครามรุกรานโดยสิ้นเชิง อีกทั้งต้องถอนกำลังรบออกจากบริเวณโดยรอบเกาหลีใต้ด้วย สุดท้ายย้ำว่า ตราบใดที่เกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ไม่เลิกใช้ปฏิบัติการที่ถือเกาหลีเหนือเป็นปรปักษ์และยุติแผนการรุกรานเกาหลีเหนือ ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะจัดการเจรจา
ดูจากท่าทีอันแข็งกร้าวของเกาหลีเหนือ และการไม่ยอมอ่อนข้อของเกาหลีใต้ สหรัฐฯกับญี่ปุ่น สามารถสรุปได้ว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลียังคงไม่มีการคลี่คลายลง และอยู่ในภาวะคุมเชิงกัน
ตั้งแต่เกาหลีเหนือยิงดาวเทียมด้วยความสำเร็จเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และทดลองนิวเคลียร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เป็นต้นมา สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีนับวันตึงเครียดขึ้น จนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องออกมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออีกครั้ง ส่วนการซ้อมรบร่วมของเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ซึ่งจัดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกับปลุกระตุ้นจุดอ่อนไหวของเกาหลีเหนือ ทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
อนาคตของคาบสมุทรเกาหลีจะเป็นอย่างไร มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่สหรัฐฯ เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือจะยอมให้กันบ้าง
ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ครั้งล่าสุดจะสิ้นสุดลงในปลายเดือนนี้ การที่เกาหลีเหนือต่อรองโต้เถียงกันไปมานั้น เป้าหมายหลักคงเจาะจงไปยังการซ้อมรบดังกล่าว ขณะนี้ สถานการณ์ล่อแหลมมาก และต่างฝ่ายต่างงัดข้อประลองกำลังกันมาโดยตลอด หากใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างไม่เหมาะสม ก็จะก่อให้เกิดการปะทะด้วยกำลังรบ ซึ่งคาดว่าจะไม่มีฝ่ายใดชน