คุณแม่แซ่จังท่านหนึ่ง อายุ 60 ปีก็เป็น "แม่ชาวจีน" ที่ไปแย่งซื้อทองในห้างทองใหญ่กั๋วหวาคนหนึ่ง ท่านบอกว่า ได้ซื้อสร้อยคอทองคำเส้นหนึ่งเพื่อเป็นของขวัญแก่ลูกสาว ลูกสาวอายุ 30 ปีแล้ว ยังไม่แต่งงาน ช่วงนี้อารมณ์ไม่ดี คุณแม่จังจึงอยากถือสร้อยคอทองคำเส้นนี้เป็นของขวัญวันเกิดให้แก่ลูกสาว เพื่อให้ลูกสาวดีใจขึ้น ท่านก็บอกว่า ได้ไปซื้อทองในห้างนี้ติดต่อกัน 5 ปีแล้ว ทองใส่ประดับของตนส่วนใหญ่ซื้อที่นี่ และยังเล่าให้ฟังว่า เมื่อ 5 ปีก่อน ราคาทองไม่ถึง 200 หยวนต่อกรัม แต่ตอนนี้เกิน 400 หยวน เกือบเป็นเท่าตัวแล้ว
อันที่จริง คุณแม่จังเป็นผู้สูงอายุทั่วไปซึ่งไม่เข้าใจเรื่องการลงทุนเลย การที่ซื้อทองทุกปีนั้นเพราะว่าชอบทองอย่างเดียว แม่ชาวจีนอย่างคุณแม่จางยังมีจำนวนมหาศาล อาทิคุณแม่แซ่หลี่เป็นผู้ที่กำลังคัดเลือกแหวนทองในห้างเดียวกัน คุณแม่หลี่บอกว่า ลูกโตแล้วไม่อยู่รอบกาย มีแต่สามีอยู่ด้วยกันตลอด อีกไม่กี่วันก็เป็นวันรำลึกการแต่งงานของสามีกับเธอ จึงหวังจะถือโอกาสนี้ซื้อแหวนทองคู่หนึ่งเป็นของขวัญให้ซึ่งกันและกัน
ส่วนสำหรับราคาทองคำ แม่หลี่ไม่ได้แสดงความสนใจแต่อย่างใด โดยทราบแต่ว่า ทองคำแพงขึ้นทุกปี เธอบอกว่า ในช่วงแต่งงานของเธอเมื่อ 26 ปีก่อน ที่กรุงปักกิ่งมีร้านขายทองไม่กี่แห่ง และราคาทองคำถูกกว่าเยอะ เป็นประมาณ 80 หยวนต่อกรัม แต่ช่วงนี้เป็น 400 หยวนแล้ว เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
นอกจากความชอบแล้ว ยังมีแม่จีนจำนวนไม่น้อยที่ซื้อทองเพื่อเตรียมเป็นของขวัญงานแต่งงานแก่ลูกสาว คุณแม่เฉินก็เป็นคนในกลุ่มนี้ เธอล้อเล่นว่า ดูข่าวแล้วรู้ว่า ฉันก็เป็นหนึ่งใน "แม่ชาวจีน" ซึ่งเอาชนะนักลงทุนวอลล์สตรีต เธอบอกว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้ยินว่า ราคาทองตกต่ำลงแล้ว จึงคิดจะรีบไปซื้อหน่อย อันที่จริง ครั้งนี้ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ ก็คิดว่าจะเก็บเครื่องทองหยองสักอย่างเพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงานของลูกสาว ทั้งๆที่ลูกสาวอายุแค่ 11 ขวบ พูดถึงเรื่องนี้แล้วคุณแม่เฉินก็หัวเราะตัวเอง นอกจากเตรียมเป็นของขวัญงานแต่งแก่ลูกสาว คุณแม่เฉินยังซื้อกำไลข้อมือทองหนึ่งวงเพื่อเป็นของขวัญแก่แม่สามี และสร้อยคอทองคำหนึ่งเส้นให้กับตัวเอง
ในร้านขายทองของกรุงปักกิ่ง ยังเห็นได้ว่า มีชาวต่างถิ่นที่แห่ซื้อทองจำนวนมาก อันที่จริง ผู้คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่เดินทางไปเที่ยวปักกิ่งในวันหยุดวันแรงงานสากล แต่เมื่อได้ยินข่าวที่ราคาทองคำร่วงลง บางคนเพิ่งไปถึงปักกิ่งวันแรกก็รีบไปซื้อทองในห้างโดยไม่ทันเที่ยวที่ไหนเลย
คุณแม่ซุ่งกับสามีเป็นผู้ที่ไปเที่ยวปักกิ่ง มาจากมณฑลเหอเป่ย แต่เมื่อลงรถไฟตอน 6 โมงเช้า ทั้งสองคนก็รีบไปห้างทองใหญ่กั๋วหวาโดยตรง แม่ซุ่งบอกว่า "เรามาถึงปักกิ่งครั้งแรก และที่นี่เป็นเป้าหมายแรกของการเดินทางครั้งนี้ จัตุรัสเทียนอันเหมินยังไม่ได้ไปก็มาถึงที่นี่เพื่อซื้อทอง กลัวมาสายแล้วถูกแย่งไปหมด จึงตั้งใจจะซื้อไว้ก่อน แล้วค่อยไปเที่ยว"
สำหรับสภาพการแห่ซื้อทองของแม่ชาวจีน มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินแสดงความคิดเห็นว่า อันที่จริง แม่ชาวจีนไม่อาจเปลี่ยนแนวโน้มของราคาทองคำได้ ทองที่แม่ชาวจีนซื้อกันเป็นผลิตภัณฑ์ทองคำใส่ประดับ ไม่สามารถเทียบเท่ากับปริมาณทองคำในตลาดการเงินโลกได้ ดังนั้น แรงซื้อทองของแม่ชาวจีนเอาชนะนักชอร์ตเซลวอลล์สตรีตโดยสิ้นเชิงนั้น เป็นเพียงการกล่าวล้อเล่นเท่านั้น ไม่ควรยึดถือเอาจริงเอาจัง
ในสายตาของนักลงทุนวอลล์สตรีต ช่วงนี้ทองคำไม่เป็นเป้าหมายการลงทุนที่ดี เพราะราคาทองคงจะร่วงลงไปอีก แต่สำหรับ "แม่ชาวจีน" เรื่องลงทุนคงไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอสนใจ สิ่งที่ "แม่ชาวจีน" คิดคือ "รักทองก็ซื้อไปเถอะ" นี่คงเป็นความผูกพันอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ขึ้นอยู่กับเศรษฐศาสตร์หรือสถานการณ์การเงินของโลก