ระหว่างบรรทัด:คนจีนรุ่นใหม่กับค่านิยมในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
  2013-06-20 14:08:59  cri

有什么别有病, 没什么别没钱

You3 Shen2Me Bie2 You3 Bing4 Mei2 Shen2Me Bie2 Mei2 Qian2

มีอะไรก็มีได้ ขอแต่อย่ามีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีอะไรก็ไม่มีได้ ขอแต่อย่าให้ ไม่มีเงิน

สุภาษิตจีนกล่าวเอาไว้ สะท้อนให้เห็นความคิดและความเชื่อของคนเก่าก่อนที่ยังคงใช้ได้ถึงปัจจุบันนี้ ว่าการมีสุขภาพที่ดี สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด

แต่ผลพวงจากความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ทำให้ประเทศจีนในวันนี้ มีความเปลี่ยนแปลงไปมากโดยเฉพาะวิถีชีวิตคนเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกับเมืองใหญ่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย

คนเมืองจะมีปัญหาสุขภาพอันเกิดจากการใช้ชีวิตและอาหารการกินมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ เส้นเลือดอุดตัน โรคไตรวมทั้งมะเร็ง เนื่องจากวิถีการบริโภคเนื้อสัตว์มาก รับประทานอาหารไขมันสูงและมีเส้นใยน้อย

ในอีกด้านหนึ่ง ค่านิยมในการสูบบุหรี่ของชาวจีนทั้งหญิงและชาย ตั้งแต่คนแก่จนถึงหนุ่มสาว ก็เป็นปัญหาใหญ่ด้านสุขภาพในปัจจุบันที่ยังแก้ไขไม่ได้ รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขจีน เปิดเผยว่า โรคเรื้อรังต่างๆข้างต้นเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตที่พบในประเทศจีน คิดเป็นร้อยละ 85 ของการสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด และมีแนวโน้มจะเสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี

ในขณะที่ สำนักข่าวซินหัว ระบุว่า ตัวเลขชาวจีนที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มีอัตราเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา และสัดส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ยังคงมีมากเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาโรคมะเร็งทั้งหมด โดยพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งรัฐบาลจีนก็เห็นอันตรายและผลกระทบด้านการให้บริการสาธารณสุขในการรักษาโรคดังกล่าว จึงมีความพยายามในการรณรงค์ให้ความรู้ ล่าสุด ปีที่แล้ว ได้มีการออกกฎหมายห้ามการสูบบุหรี่ในอาคารสถานที่ต่างๆ พร้อมติดป้ายห้ามสูบ แต่ในทางปฏิบัติก็พบว่ายังคงมีการลักลอบและแอบละเมิดกฎอยู่เนืองๆ

ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจึงทำให้ผู้คนหันมาให้ความเอาใจใส่และดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น ตั้งแต่การออกกำลังกาย การเลือกประเภทอาหารการกินและการดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ

หากออกไปที่สวนสาธารณะในช่วงเช้า หรือตอนเย็นในกรุงปักกิ่งภาพที่จะเห็นได้มาก ก็คือ คุณลุงคุณป้า มาออกกำลังกาย ไม่ว่าจะรำไทเก็ก ชี่กง และอื่นๆ ส่วนหนุ่มสาวยุคใหม่ ก็ให้ความสนใจกับกีฬาสมัยใหม่มากขึ้น ทั้งโยคะ แอโรบิค เทนนิส ฟุตบอล ว่ายน้ำ (ไม่นับรวม ปิงปอง แบตมินตันและยิมนาสติคที่เป็นกีฬาสร้างชื่อให้กับจีนมายาวนานอยู่แล้ว ) แม้กระทั่งกิจกรรมการเดิน วิ่ง รวมไปถึงกิจกรรม การไต่เขา เดินป่า..

เราจึงไม่ต้องแปลกใจ หากพบว่าเพื่อนชาวจีนจะบอกว่า หลังอาหารแล้วจะไปเดินย่อยสักครึ่งชั่วโมง หรือในช่วงพักกลางวันและช่วงเย็นก็มีกิจกรรมที่นัดหมายไปเล่นกีฬาและออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน

ทัศนะเรื่องอาหารการกินและการเลือกซื้อสินค้าก็เปลี่ยนไป ชาวจีนไม่น้อยเคยมีความคิดและความเชื่อว่า อาหารที่แสดงฐานะและรสนิยมที่ดี คือ อาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบหลัก ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีรสชาติ มัน เค็ม แต่หลังจากมีความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น ก็เปลี่ยนค่านิยมจากการชอบออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน กลายเป็นการหันกลับมาทำอาหารรับประทานเองในบ้าน ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อผักและเนื้อสัตว์ที่สะอาด ปลอดสารเคมี เพื่อความปลอดภัยมากขึ้น และนิยมปรุงอาหารที่เน้นส่วนประกอบของผักมากขึ้น (แม้ว่าราคาของผักปลอดสารเคมีจะยังแพงอยู่ก็ตาม)

คนในชาติอื่นๆ อาจมีภาพประทับในความจำเรื่องหนึ่งนั่นคือ สินค้าของจีน ราคาถูก แต่คุณภาพไม่ดี คนจีนจำนวนมากในอดีตก็เลือกซื้อสินค้าด้วยวิธีการเช่นนี้ แต่หลังจากพบปัญหา สารปนเปื้อนในเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ทำให้เป็นผื่นแฟ้ โรคผิวหนัง รวมทั้งข่าวการปนเปื้อนในนม และอาหารปลอมปน ก็ทำให้เกิดผลกระทบและวงกระเพื่อมขนาดใหญ่ในหมู่คนจีนที่หันกลับมาให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น โดยยอมจ่ายในราคาสูงขึ้นเพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพดีขึ้น ใช้แล้วจะได้ไม่มีปัญหา

ยังมีความนิยมในหมู่ชาวจีนรุ่นใหม่ที่ใช้อินเตอร์เนตและสื่อสังคมออนไลน์

โดยเฉพาะ we chat ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานชาวจีน ประมาณ 400 ล้านคน (ในขณะที่ในเมืองไทยจะนิยมใช้ Line มากกว่า) สื่อใหม่เหล่านี้ กลายเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสารระหว่างกัน และอีกด้านหนึ่งก็เป็นช่องทางส่งข้อมูลข่าวสารหากัน รวมทั้งข้อมูลด้านสุขภาพด้วย ทั้งด้านสุขภาพ ความงาม อาหารการกิน การบำรุงร่างกาย การออกกำลังกาย เทคนิควิธีต่างๆในการเลือกซื้อสินค้า การเลือกกินอาหารประเภทต่างๆและผักผลไม้ให้ถูกต้อง เหมาะสมตามฤดูกาล เป็นต้น

หน้าจอ we chat แสดงตัวอย่างคำแนะนำการกินอาหารตามฤดูกาล

ค่านิยมและทัศนะเกี่ยวกับการดูแลตัวเองในด้านต่างๆของชาวจีนรุ่นใหม่ โดยใช้ช่องทางใหม่ๆในการแสวงหาความรู้ ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งของความพยายามจะรักษาสุขภาพให้แข็งแรงมากขึ้น เพื่อจะได้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโรคภัยไข้เจ็บต่างๆเมื่อมีอายุมากขึ้น ไม่แตกต่างจากคนไทยที่ก็มีสุภาษิตที่พูดถึงการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพเช่นกัน ที่ว่า "ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ" นั่นเอง

โสภิต หวังวิวัฒนา เรียบเรียง

 

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040