เรื่องสนุกๆ เหล่านี้ ยังทำให้เกิดความนิยมที่เปรียบเทียบระหว่างมหาวิทยาลัยด้วยกัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนเป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยประจำปี ซึ่งสังคมจีนให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะการสอบและการเลือกมหาวิทยาลัยอาจมีผลต่อชีวิตอนาคตของนักเรียน บางคนจึงกล่าวว่า น้องๆ ที่รัก เวลาเลือกมหาวิทยาลัย ไม่ต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ไม่ต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่หางานง่าย และก็ไม่ต้องคิดว่าเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งไหนจะมีอนาคตที่ดี ควรเลือกมหาวิทยาลัยที่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่งั้นยังไม่ทันจบ คุณก็อาจจะร้อนตายก่อน

นอกจากนี้ ยังมีคนเขียนเรื่องตลกเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยของมณฑลเหอหนานบนอินเตอร์เน็ตว่า มหาวิทยาลัยเจิ้งโจวบอกว่า มาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเจิ้งจูสิ เราเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยสำคัญ 211 แห่งของจีน แต่มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมเหอหนานกล่าวว่า สู้ไม่ได้ เรามีเครื่องปรับอากาศ มหาวิทยาลัยเจิ้งโจวโต้ว่า เราอยู่ในอันดับ 50 แรกของการจัดมหาวิทยาลัยที่ดีทั่วประเทศจีน มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมเหอหนานตอบว่า สู้ไม่ได้ เรามีเครื่องปรับอากาศ มหาวิทยาลัยเจิ้งโจวโต้อีกว่า เนื้อที่เขตใหม่ของเราเป็นที่อันดับ 3 ในจีน มหาวิทยาลัยเหอหนานตอบเหมืนเดิมว่า สู้ไม่ได้ เรามีเครื่องปรับอากาศ คนนี้ยังกล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีนักศึกษาแอฟริกาคนหนึ่งถามเขาว่า มหาวิทยาลัยจะปิดเทอมเมื่อไร เหอหนานร้อนจัง อยากกลับแอฟริกา

ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมากก็เรียกร้องให้นายเซียว จิ้งถึง นักร้องชายชาวไต้หวันมาเที่ยวหรือมาจัดคอนเสิร์ต เพราะเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมปีที่แล้ว กรุงปักกิ่งประสบฝนตกหนักมาก ซึ่งพอดีเป็นวันที่จัดคอนเสิร์ตของเซียว จิ้งถึง เขาเขียนใน weibo ว่า แฟนๆ ปักกิ่ง ผมรอที่สนามกีฬาอู่เคอซงนะครับ ทำให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตต่างล้อเล่นกันว่า คอยเดี๋ยวนะ เรากำลังว่ายน้ำ ใกล้จะถึงแล้ว หรือว่า เพื่อนไต้หวัน แม้ว่าคุณมาถึงปักกิ่งแล้ว ระหว่างเราก็ยังมีทะเลขัดขวางอยู่ เป็นต้น ตั้งแต่นั้นมา เซียว จิ้งถึง ก็เกี่ยวข้องกับฝนในเกือบทุกที่ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมปี 2012 เซียว จิ้งถึง เปิดคอนเสิร์ตที่นครเซี่ยงไฮ้ แต่เซี่ยงไฮ้ประสบพายุไห่คุ้ย ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม เขาไว้เทปต้นฉบับที่นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ และนิวยอร์กก็ประสบมรสุมขนาดใหญ่ และเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนเขาวางแผนจะจัดคอนเสิร์ตรอบโลกที่นครเทียนจิน แต่ต้องเลื่อนเวลาออกไป เพราะเทียนจินฝนตกหนักเกินไป เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เซียว จิ้งถึง จัดคอนเสิร์ตที่กรุงลอนดอน พอดีประเทศอังกฤษประสบฝนตกหนักมาก ทำให้หลายพื้นที่เกิดอุทกภัยรุนแรง เรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญเหล่านี้ ทำให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกล่าวว่า เซียว จิ้งถึง เป็น "เทพเจ้าแห่งน้ำ" จริงๆ เพราะฉะนั้น ช่วงนี้ เขาจึงกลายเป็นคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตหลายพื้นที่เรียกร้องให้เซียว จิ้งถึง มาช่วยฝนตกบ้าง ถึงเพียงแค่เฉียดผ่านก็พอ และเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เซียว จิ้งถึง เขียนใน weibo ว่า กรุงปักกิ่ง เดี๋ยวเจอกันนะ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจึงวิจารณ์ว่า ปักกิ่งมีความสุขจัง เดี๋ยวก็จะมีฝนตกแล้ว อิจฉาจังเลย

ถึงสนุกอย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญกับอากาศร้อนไม่ปกติอย่างนี้ รัฐบาลจีนก็ไม่สามารถมองข้าม กรุงปักกิ่งกำหนดว่า พนักงานที่ทำงานข้างนอกต้องมีเงินสนับสนุนเพิ่มอย่างน้อย 120 หยวนทุกเดือน และพนักงานที่ทำงานในห้องที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 33 องศาเซลเซียส ต้องมีเงินสนับสนุนอย่างน้อย 90 หยวนทุกเดือน ในขณะเดียวกัน หน่วยงานและบริษัทต่างๆ ต้องเตรียมเครื่องดื่มและยาแก้ภาวะลมแดดให้พร้อม เมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ต้องหยุดทำงานข้างนอก เมื่ออุณหภูมิอยู่ระหว่าง 35-40 องศาเซลเซียส การทำงานข้างนอกต้องไม่เกิน 6 ชั่วโมง และยังควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่ร้อนที่สุด คือตอนเที่ยงถึงบ่าย 3 โมง

เมืองอู่ฮ่านก็ได้ปรับเวลาการทำงานของพนักงานข้างนอก พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับยาและอาหารต้องส่งเสริมการบริหารด้านความปลอดภัยของอาหาร ตรวจสอบอาหารที่เสียง่ายอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังจัดตั้งจุดพักร้อนในตัวเมืองให้กับประชาชน ซึ่งจะมีเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่มเย็นและยาแก้โรคลมแดด เป็นต้น

เมืองซีอานก็ได้จัดตั้งจุดพักร้อนให้กับประชาชนในฤดูร้อนต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 6 แล้ว ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 16 องศาเซลเซียส มีเก้าอี้และโต๊ะ 336 ชุดให้ประชาชนพักผ่อน

อากาศร้อนในพื้นที่ต่างๆ ของจีนไม่เพียงทำให้เกิดเรื่องสนุกๆ เท่านั้น อีกทั้งยังกลายเป็นการท้าทายที่เข้มงวดแล้ว ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า สาเหตุที่ตัวเมืองร้อนขึ้นคือ ในปัจจุบัน เมืองต่างๆ มีเครื่องยนต์ รถยนต์ต่างๆ มากมาย ซึ่งต้องใช้พลังงานมาทำงาน และระบายความร้อน นอกจากนี้ ถนนและสิ่งก่อสร้างในตัวเมืองส่วนใหญ่ประกอบด้วยหิน ปูนวีเมนต์ และยางแอสฟัลต์ ซึ่งก็สามารถให้อุณหภูมิในตัวเมืองสูงขึ้นด้วย เพราะฉะนั้น รัฐบาลก็ควรให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยกระตุ้นให้ประชาชนประหยัดพลังงานและปลูกต้มไม้ในตัวเมืองมากขึ้น

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนประชาชนว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคลมแดดส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเรื่อยๆ ประชาชนควรระมัดระวัง ดื่มน้ำมากขึ้น ให้ห้องพักและห้องทำงานมีอากาศหมุนเวียน ถ้ามีอาการเวียนหัว หมดแรง คลื่นเหียน เป็นต้น ต้องกินยาอย่างทันท่วงที พร้อมต้องรักษาอารมณ์ทางบวก จินตนาการถึงสิ่งสวยงามบ้าง ฟังดนตรีสบายๆ เพื่อให้สดชื่นบ้าง และเดินเล่นตามสวนสาธารณะ ริมแม่น้ำและริมทะเลสาบ ในการทำงานก็ควรหลีกเลี่ยงความหงุดหงิดและความรีบเร่ง พยายามทำให้ใจเย็นลง เพื่อลดอัตราการเกิดโรคลมแดด