เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:นักศึกษาสมัยนี้รักดีมีเพียงร้อยละ 1
  2013-08-08 10:32:55  cri

ฤดูจบการศึกษาผ่านพ้น ปัญหานักศึกษาจบใหม่ผจญกับการหางานทำยากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยปัจจัยแวดล้อมต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้นน่าจะเพราะตัวนักศึกษาเองด้วย เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมามีรายงานผลสำรวจเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนจีนว่าเปลี่ยนแปลงหรือถูกเปลี่ยนแปลง ปรากฏว่า มีนักศึกษามหาวิทยาลัยเพียงร้อยละ 1.1 ที่ขยันตั้งใจเรียนจริง ที่เหลือเคยโดดเรียนจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา

ผลสำรวจแสดงว่า กว่าร้อยละ 90 ของนักศึกษาต่างมีประสบการณ์เคยโดดเรียน และในจำนวนนี้ร้อยละ 28.7 ระบุว่าเพราะรู้สึกการเรียนการสอนแย่ เรียนไปไม่ได้อะไร อีกร้อยละ 27.8 ว่าเพราะหลักสูตรไม่น่าสนใจ ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง อีกร้อยละ 20.5 ว่า เพราะเนื้อหาการเรียนการสอนล้าสมัยไป ปริมาณข้อมูลความรู้ที่ถ่ายทอดน้อย และร้อยละ 7.4 ว่าเนื้อหาที่สอนง่ายไป สามารถเรียนด้วยตนเองได้ เป็นต้น

ในเมื่อบรรดานักศึกษากลุ่มใหญ่ไม่ต้องการใช้เวลาหมดไปกับการเข้านั่งเรียนในชั้นเรียน จึงเกิดคำถามที่ว่าคนเหล่านั้นเอาเวลาไปทำอะไรกัน? คำตอบที่ได้รับปรากฏว่า นักศึกษาหญิงเกิดหลังปี 1986 หลักๆ แล้วนอกจากเตรียมตัวสอบเข้าศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้น ก็จะติดดูละครเกาหลี ส่วนนักศึกษาชายจะทุ่มเทเวลาให้กับแฟน และเล่นเกม สำหรับกลุ่มเกิดหลังทศวรรษปี 1990 นักศึกษาหญิงจะยุ่งกับการท่องเน็ตเข้าร้านช้อปปิ้งออนไลน์หรือเปิดกิจการร้านค้าออนไลน์ของตน ส่วนนักศึกษาชายยังคงยุ่งกับการดูแลเอาใจแฟน และส่วนหนึ่งไปรับจ๊อบพาร์ทไทม์ ส่วนนักศึกษาหญิงรุ่นเกิดหลังปี 1994 (นักศึกษาป.ตรีปี 1-2) จะหมดเวลาไปกับการแต่งตัวรักสวยรักงาม ทำความรู้จักกับเพื่อนต่างเพศ ส่วนนักศึกษาชายก็จะยุ่งอยู่กับการจีบสาวหาแฟนเช่นกัน

กว่าร้อยละ 28 ให้เหตุผลว่า เพราะชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นโอกาสสั่งสมประสบการณ์ด้านความรัก หาคนที่ใช่ที่เหมาะสมกับตน เพื่อการแต่งงานมีครอบครัวในอนาคต อีกกว่าร้อยละ 12 ยุ่งอยู่กับการทำงานเก็บเงิน และมีนักศึกษาเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นที่มุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับการอ่านตำราเรียนเพื่อเตรียมสอบเข้าศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น

หลายคนมองว่าที่เป็นดังนี้ เพราะระบบการศึกษาของจีนที่อบรมให้ตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เมื่อสอบติดได้แล้วชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยก็อิสระเสรีเกินไป เมื่อไม่ต้องอยู่ภายใต้สายตาพ่อแม่ จะเล่นเกมดึกดื่นแค่ไหนก็ได้ คิดว่าตนเองโตแล้วควรมีอิสระไม่ต้องถูกควบคุมอีกต่อไป

ด้านนักวิชาการแสดงความเห็นว่า นอกจากปัญหาสภาพแวดล้อมด้านการศึกษาที่บีบคั้นและปล่อยปละเกิน คนทั่วไปในสังคมยังมีความคิดว่า "เรียนในสิ่งที่ใช้ประโยชน์จริงไม่ได้" ทำให้นักศึกษาไม่น้อยคิดโยนหนังสือทิ้ง หันไปซิ่งให้เต็มที่ดีกว่า โดยหลงลืมไปว่าเบื้องหลังของคนที่ประสบความสำเร็จ ล้วนมาจากความตั้งมั่นพยายามและทุ่มเทอย่างเต็มกำลังมาก่อนทั้งสิ้น

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040