ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงหลังจากที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาหนึ่ง หลายฝ่ายจึงวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจจีนตกอยู่ในภาวะถดถอยหรือไม่ นายเซิ่ง หลายยุ่น กล่าวว่า จากดัชนีเศรษฐกิจในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านแสดงให้เห็นว่า ขณะนี้ เศรษฐกิจจีนกำลังกระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คาดว่าครึ่งปีหลังนี้ จะพัฒนาในทางที่ดีต่อไป
สาเหตุที่เศรษฐกิจมหภาคจีนมีแนวโน้มดีขึ้นนั้น นอกจากเป็นเพราะเศรษฐกิจโลกได้ปรับตัวดีขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยที่สำคัญคือรัฐบาลจีนได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีบทบาททั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น เร่งส่งเสริมการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานในเขตเมือง การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การบริโภคข้อมูลข่าวสาร และลดหรืองดภาษีของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเป็นผลดีต่อการปรับเปลี่ยนภาวะแวดล้อม รูปแบบ และโครงสร้างในการประกอบกิจการของธุรกิจต่างๆให้ดีขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมา การลงทุนและการส่งออกเคยเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้เติบโตขึ้น แต่ปัจจุบัน จีนต้องการปรับปรุงโครงสร้างให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ดังนั้นการพัฒนาเศรษฐกิจ จะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น แรงงาน และทรัพยากรธรรมชาติ จึงยากที่จะรักษาอัตราเติบโตให้อยู่ที่ตัวเลขหลักสิบ แต่ด้วยข้อมูลที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ จึงมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้าย
นายเซิ่ง หลายยุ่น ยังได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่สอบถามว่าหนี้สินรัฐบาลท้องถิ่นของจีนที่มียอดมูลค่ากว่า 10ล้านล้านหยวนนั้นจะทำให้จีนเกิดวิกฤตหนี้หรือไม่ โดยขณะนี้ ยืนยันว่าหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นจีนอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้
การแถลงข่าวครั้งนี้ มีผู้สื่อข่าวประมาณ 40 รายทั้งจีนและต่างประเทศได้เข้าร่วมรับฟังข้อมูลด้วย
(NUNE/cai)