สำนักสถิติแห่งชาติเวียดนามประกาศว่า นักลงทุนต่างชาติมีความสนใจการลงทุนในเวียดนามมากยิ่งขึ้นด้านเทคโนโลยีระดับสูงและกิจการบันเทิง โดยเฉพาะนักธุรกิจของญี่ปุ่นและเวียดนาม
ทางการเวียดนามประกาศว่า ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2013 เวียดนามได้ดึงดูดทุนต่างชาติมาร่วมทำสัญญาแล้วรวม 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 ดำเนินการไปแล้ว 8,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากกลุ่มทุนจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้ว บริษัทของอังกฤษและ
สหรัฐอเมริกาบางแห่งก็แสดงความสนใจเวียดนามด้วย สาเหตุที่ทุนต่างชาติให้ความสนใจต่อเวียดนามมากขึ้นมี 2 ประการคือ 1. นักลงทุนมีความหวังต่อศักยภาพของตลาดเวียดนาม 2. รัฐบาลเวียดนามใช้นโยบายเพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ
เมื่อปี 2012 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเฉลี่ยต่อคนของเวียดนามอยู่ที่ 1,540 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเทียบเท่ากับรายได้ขั้นต้นของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม ปัจจุบัน เวียดนามมีประชากรกว่า 90 ล้านคน ในจำนวนนี้ประมาณ 17 ล้านคนอายุ 10-17 ปี คาดว่าช่วง 10 ปีข้างหน้า พวกเขาก็จะกลายเป็นผู้บริโภคที่มีศักยภาพประมาณ 1.7 ล้านคน ซึ่งจะเพิ่มกำลังการบริโภคด้านกิจการบันเทิง อิเล็กทรอนิกส์ และสารสนเทศ
ในด้านการดึงดูดทุนต่างชาติ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเงินทุน รัฐบาลเวียดนามได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนทุนต่างชาติอย่างมาก เช่นลดภาษี และอำนวยความสะดวกมากขึ้น เมื่อปี 2005 เวียดนามประกาศใช้ กฎหมายว่าด้วยการลงทุน ใช้นโยบายเดียวกันทั้งทุนต่างชาติและทุนภายในประเทศ นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับแก้ไข กฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจ เพื่อลดระเบียบการบริหารวิสาหกิจทุนต่างชาติ ขณะนี้ เวียดนามกับสหรัฐฯ กำลังจัดการเจรจาเกี่ยวกับการเข้าร่วมข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย- แปซิฟิกหรือ TPP การเข้าร่วม TPP หมายถึงเวียดนามจะผ่อนคลายการควบคุมและกำกับดูแลทุนต่างชาติ ลดเงื่อนไขสำหรับการเข้าร่วมตลาดโทรคมนาคม ตลอดจนกิจการการเงินและการประกันภัย ดังนั้น นักลงทุนต่างชาติจึงตั้งความหวังต่อการลงทุนในเวียดนามมากขึ้น
Nune/Lr