แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางไปเที่ยวไทย พร้อมประทับใจในการต้อนรับของเจ้าบ้าน แต่เจ้าบ้านไม่ค่อยประทับใจนักท่องเที่ยวจีนบางคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เมื่อเร็วๆ นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการท่องเที่ยวไทยของชาวต่างประเทศ เพื่อดูผลกระทบจากการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวใน 7 พื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา และเกาะสมุย พบว่าในมุมมองผู้ประกอบการ ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับนักท่องเที่ยวด้วยกันเห็นว่า นักท่องเที่ยวจีนบางคนพูดคุยโวยวาย เสียงดังมีถึงร้อยละ 26.3

เว็บไซต์จีนก็มีการโหวตเห็นว่า พฤติกรรมไร้มารยาทของนักท่องเที่ยวจีนบางคนมัก ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมเสีย และเกิดผลเสียหายติดตามมา สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้จัดทำ "หนังสือคู่มือการปฏิบัติตน สำหรับนักท่องเที่ยวจีน" ความยาว 64 หน้ากระดาษผ่านเว็บไซต์ที่ให้คำอธิบายและคำแนะนำต่างๆ ถึงสิ่งที่ "ควรทำ" และ "ไม่ควรทำ" ขณะเดินทางท่องเที่ยวอยู่ต่างประเทศ ซึ่งหนังสือคู่มือเล่มนี้ถูกประกาศออกมาก่อนหน้า"สัปดาห์ทอง" ของช่วงหยุดยาว 7 วันในโอกาสวันชาติจีนปีที่ 64 (1 ต.ค.2556) โดยมีใจความสำคัญอยู่ที่แนวทางการปฏิบัติตนในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ไม่บ้วนน้ำลาย แคะจมูก ตะโกนเสียงดัง หรือทิ้งขยะในที่สาธารณะ ไม่ปัสสาวะลงในสระว่ายน้ำ ไม่ดื่มซุปจากถ้วยชามโดยตรง ไม่รับประทานอาหารเสียงดัง ไม่ตักอาหารในร้านบุฟเฟต์เกินความจำเป็น ไม่ใช้นิ้วมือแคะฟัน หรือแม้แต่การหยิบเอาเสื้อชูชีพบนเครื่องบินติดมือลงมาด้วยก็ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ คู่มือดังกล่าวยังได้แนะนำข้อปฏิบัติพิเศษเมื่อไปเยือนประเทศต่างๆ เช่น การดีดนิ้วในเยอรมันจะใช้กับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น ผู้หญิงในสเปนจะใส่ต่างหูเมื่ออยู่นอกบ้านเสมอ เวลารับประทานอาหารในญี่ปุ่นห้ามจับเล่นเส้นผมหรือเสื้อผ้า การใช้มือขวาสัมผัสผู้อื่นเท่านั้นในอินเดีย หรือระมัดระวังในการพูดคุยถึงสถาบันกษัตริย์เมื่ออยู่ในประเทศไทย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 3.24 ล้านคนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงเวลาดังกล่าว พุ่งขึ้น 107.7% คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะทะลุ 4 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ผู้ประกอบการทั้งจีนและไทยต่างระบุว่า หากทั้งสองประเทศยกเว้นวีซ่าระหว่างกันสำหรับพาสปอร์ตทั่วไปแล้ว จะมีนักท่องเที่ยวไปเยือนซึ่งกันและกันเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ ( 25 ธันวาคม 2556) ในงานสนทนาการทูตจีนประจำปี 2556 ของกระทรวงการต่างประเทศจีน นายหวัง ผิง อธิบดีกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า ขณะนี้ การเจรจาว่าด้วยการยกเว้นวีซ่าระหว่างจีน-ไทยได้สิ้นสุดลงด้วยความ สำเร็จ คาดว่า จะมีการลงนามกัน ซึ่งนายหวัง ผิงกล่าวว่า จีน-ไทยได้เจรจาความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา(วีซ่า)ระหว่างกันแล้ว แต่ยังรอจังหวะที่เหมาะสมสำหรับลงนาม หวังว่าจะเกิดผลแบบโดมิโน ทำให้จีนกับต่างประเทศจำนวนมากขึ้นตกลงเรื่องการยกเว้นวีซ่าระหว่างกันสำหรับพาสปอร์ตทั่วไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนจีนออกไปเที่ยวมากขึ้น