ความต่างระหว่างการประชุมสองสภาปี 2014 กับการประชุมสองสภาของปีที่ผ่านมา (1)
  2014-03-10 09:40:32  cri

ช่วงนี้จีนกำลังจัดเรื่องใหญ่ทางการเมืองประจำปี ซึ่งก็คือการประชุมสองสภา ได้แก่ การประชุมสภาผู้แทนประชาชนและการประชุมสภาปรึกษาการเมือง โดยรัฐบาลจีนจะสรุปผลงานในรอบปีที่ผ่านมาและวางแผนภารกิจในหนึ่งปีข้างหน้า บรรดาผู้แทนประชาชนต่างเสนอข้อเสนอหลายๆ ด้านที่เห็นว่าควรปรับปรุงแก้ไข

แต่การประชุมปีนี้มีความพิเศษ เพราะเป็นปีแรกของรัฐบาลจีนชุดใหม่ที่จัดขึ้นหลังเข้าดำรงตำแหน่งเป็นต้นมา ประชาชนต่างใคร่รู้ว่า รัฐบาลชุดใหม่นี้จะมีมาตรการและนโยบายอย่างไรในการบริหารประเทศทางด้านต่างๆ และมีความพิเศษอย่างไรเมื่อเทียบกับการประชุมสองสภาของปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น การแสดงความคิดเห็นและความสนใจต่อการประชุมปีนี้จึงมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น มาสรุปหน่อยว่า การประชุมสองสภาปีนี้ต่างกับปีที่ผ่านมาอย่างไร

1.การประชุมครั้งนี้แสดงถึงแนวคิดการประหยัดในทุกด้าน

ตั้งแต่นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นต้นมา ได้พยายามในด้านปราบปรามการทุจริตอย่างเข้มงวด สั่งให้ผู้นำระดับต่างๆ ประหยัดงบประมาณในทุกด้าน ปฏิเสธการใช้ของฟุ่มเฟือย ไม่ทานอาหารหรือจัดเลี้ยงในร้านอาหารราคาแพง ทำให้ร้านอาหารต่างปรับมาตรฐานราคาให้อยู่ในระดับธรรมดา ไม่โอเวอร์เกินจริง

เมื่อปลายปี 2013 มีรายงานข่าวนายสี จิ้นผิง ไปนั่งทานอาหารที่ร้านชิ่งเฟิงเปาจื่อ ซึ่งเป็นร้านอาหารชาวบ้านราคาถูก เมื่อทานเสร็จก็ยังเข้าแถวรอจ่ายเงิน และในปีนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายเหลียนจ้าน ประธานเกียรติยศพรรคก๊กมิ่นตั๋งของไต้หวัน มาเยือนจีนแผ่นดินใหญ่ นายสี จิ้นผิง ก็ได้จัดงานเลี้ยงรับรองด้วยอาหารที่เรียบง่ายเช่นกัน เป็นอาหารขึ้นชื่อของมณฑลส่านซี เป็นที่ชื่นชมของประชาชนทั่วไป

เพราะฉะนั้น การประชุมสองสภาก็ต้องใช้มาตรการเพื่อปฏิบัติตามแนวคิดของประธานาธิบดี

ในการประชุมครั้งนี้ ไม่มีการตั้งขบวนต้อนรับ ไม่มีการมอบช่อดอกไม้ ไม่มีการแจกของใช้แบบครั้งเดียวทิ้ง ไม่มีการรับรองด้วยผลไม้ราคาแพง บุหรี่ และแอลกอฮอล์ เป็นต้น ที่สำคัญคือ การประชุมครั้งนี้ไม่มีการรับรองด้วยอาหารฝรั่ง แต่ให้อาหารจีนที่มีลักษณะพิเศษของท้องถิ่น

การประชุมครั้งนี้ยังเปลี่ยนการรินเสิร์ฟน้ำเป็นการแจกน้ำดื่มแบบขวด เพื่อให้สามารถเก็บกลับไปดื่มต่อให้หมดได้ โดยจะมีการเขียนติดชื่อไว้ที่ขวด หลีกเลี่ยงความสับสนกลัวที่จะหยิบผิดทำให้ต้องทิ้งไปเป็นการสิ้นเปลืองน้ำ ซึ่งผู้ร่วมประชุมต้องดื่มน้ำในขวดตนเองให้หมดจึงจะสามารถไปขอรับขวดใหม่ได้ จึงไม่เกิดสภาพที่เห็นขวดน้ำที่ดื่มไปเพียงนิดหน่อย แต่หาเจ้าของไม่เจอจนต้องทิ้งไป

2. การประชุมสองสภาปีนี้ห้ามผู้ร่วมประชุมสูบบุหรี่อย่างเข้มงวด

ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ร่วมกับสมาคมควบคุมบุหรี่ของจีนเรียกร้อง "การประชุมสองสภาที่ไร้บุหรี่ ให้จีนมีสุขภาพที่ดี" นายผู่ ฉุนซิน กรรมการสภาปรึกษาการเมืองและนักแสดงชายที่มีชื่อเสียงของจีน ก็เรียกร้องว่า การที่ประชาชนงดสูบบุหรี่ สังคมร่วมกันควบคุมการสูบบุหรี่ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการก้าวไปสู่สังคมที่มีคุณธรรมและมีความก้าวหน้า หวังว่าประชาชนจะเข้าร่วมด้วยกัน

เมื่อปลายปี 2013 สำนักงานกลางและคณะรัฐมนตรีจีนประกาศ "ข้อกำหนดเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะของผู้นำระดับต่างๆ" โดยได้กำหนดว่า ห้ามผู้นำระดับต่างๆ สูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ และควรเตือนให้ผู้อื่นหยุดการสูบบุหรี่ เป็นต้น

การประชุมสองสภาปีนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่การประกาศข้อกำหนดดังกล่าว ดังนั้น การประชุมสองสภาครั้งนี้จึงกำหนดห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด นายต่ง เจี้ยหลิน รองเลขาธิการคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนมณฑลอันฮุย ซึ่งสูบบุหรี่มา 40 ปีแล้วเล่าว่า ระหว่างการประชุมที่ผ่านมา มักต้องยืนใกล้ถังขยะ สิ่งแรกที่ทำหลังเลิกประชุมก็คือ วิ่งไปยังถังขยะและรีบจุดบุหรี่สูบ หลังรัฐบาลประกาศข้อกำหนดดังกล่าว เขาจึงตระหนักว่า ตนเองควรพยายามงดบุหรี่บ้าง โดยเริ่มอดมาได้ 2 เดือนแล้ว รู้สึกสบายตัวขึ้นมาก สาเหตุที่งดบุหรี่ นอกจากปัจจัยทางสุขภาพ ที่สำคัญยิ่งคือการประชุมสองสภาเป็นเรื่องใหญ่ที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากทั้งในและนอกประเทศ จึงรู้สึกว่า ควรรักษาภาพลักษณ์ของข้าราชการจีน

3. การรักษาสภาพแวดล้อมกลายเป็นประเด็นร้อนและสำคัญยิ่ง

เมื่อหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เมื่อปี 2013 ท้องที่ต่างๆ ของจีนเกิดหมอกพิษปกคลุมที่รุนแรง บางพื้นที่การจราจรบนทางด่วนมีหมอกหนาจนมีทัศนวิสัยไม่ถึงกิโลเมตร โดยเฉพาะหนึ่งสัปดาห์ก่อนการประชุมสองสภา กรุงปักกิ่ง นครเทียนจินและมณฑลเหอเป่ย เกิดหมอกมลพิษระดับรุนแรงที่สุดปกคลุมระยะเวลาร่วมสัปดาห์ จนรัฐบาลประกาศการเตือนภัยสีแดง ซึ่งหมายถึงส่งผลกระทบถึงสุขภาพและชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างมาก นับว่าเป็นความท้าทายต่อการประชุมสองสภาที่จะเปิดฉากขึ้น ชาวโลกต่างอยากรู้ว่า รัฐบาลจีนจะใช้วิธีอะไรรับมือกับสภาพเช่นนี้และจะมีนโยบายอะไรบ้างเกี่ยวกับการแก้ไขมลพิษทางอากาศ

เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวขณะรายงานผลดำเนินงานของรัฐบาลในที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติชุดที่ 12 ครั้งที่ 2 ว่า ปีนี้ต้องพยายามสร้างบ้านเมืองที่สวยงาม ฝุ่นหมอกปกคลุมที่ขยายกว้างขึ้น ปัญหามลพิษทางสภาพแวดล้อมที่เด่นชัดยิ่งขึ้น เป็นการเตือนถึงวิธีพัฒนาที่ไม่ถูกต้องจากธรรมชาติ ดังนั้น ต้องส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด

จริงๆ แล้ว ทั้งรัฐบาลจีนและเทศบาลพื้นที่ต่างๆ เคยประกาศว่า ได้ใช้มาตรการแก้ไขมลพิษทางอากาศ นายไฉ ฟาเหอ รองอธิการบดีสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของจีน กล่าวว่า ประการแรก กระทรวงรักษาสิ่งแวดล้อมลงนามในหนังสือรับผิดชอบกับเขต เมืองและมณฑลต่างๆ ในฐานะผู้แทนของคณะรัฐมนตรีจีน เพื่อให้ผู้นำระดับต่างๆ ปฏิบัติตามเป้าหมายและมาตรการอย่างละเอียด ประการที่สอง เทศบาลเมืองต่างๆ ได้กำหนดมาตรการฉุกเฉินในการรับมือกับมลพิษรุนแรง โดยพยายามอย่างมากในการลดคาร์บอนและรักษาสุขภาพของประชาชน

ความจริงแล้ว ทั้งหมดนี้เกิดผลแล้วในปัจจุบัน เช่นในเหตุมลพิษทางอากาศรุนแรงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 วัน นักวิชาการทางอุตุนิยมวิทยาได้เทียบกับข้อมูลเมื่อเดือนมกราคมปี 2013 และระบุว่า ยกกรุงปักกิ่งเป็นตัวอย่าง ครั้งนี้ระดับความเข้มข้นของ PM2.5 เป็นเพียงหนึ่งในสามของความเข้มข้นสูงสุดเมื่อปีที่แล้ว แสดงว่ามาตรการที่ใช้เกิดผลจริง แต่ว่ายังไม่พอเพียง เพราะมนุษย์ไม่สามารถสัมผัสการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ทางความรู้สึก รัฐบาลได้พยายามแล้ว แต่ยังต้องเพิ่มกำลังต่อไป รวมถึงต้องใช้เวลาดำเนินการต่อเนื่องเป็นระยะยาว

นายไฉ ฟาเหอ ยังแนะนำว่า สำหรับประชาชน เมื่อเกิดมลพิษรุนแรง ต้องรู้จักป้องกันตนเอง เช่น คนชรา เด็กๆ และคนที่เป็นภูมิแพ้ อย่าออกไปข้างนอกในช่วงดังกล่าว ควรอยู่ในที่พักและปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายไหลเวียนเข้ามาภายใน อีกด้านหนึ่ง โรงเรียนก็ไม่ควรจัดให้นักเรียนออกกำลังกายหรือวิ่งเล่นที่สนามกีฬากลางแจ้ง ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภายในห้อง เพราะการเล่นกีฬาที่ต้องใช้แรงมากๆ จะทำให้ปริมาณการสูดลมหายใจเข้าปอดเพิ่มขึ้น ทำให้เด็กสูดรับมลพิษเข้าไปในร่างกายมากขึ้น ซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพ และการใช้ผ้าปิดจมูกเป็นวิธีป้องกันตนเองที่ดีมาก

เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา นางฟู่หยิง โฆษกการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติชุดที่ 12 ครั้งที่ 2 ระบุว่า สภาผู้แทนประชาชนจะเริ่มตรวจสอบงานปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันมลพิษทางอากาศ พร้อมจะพิจารณาแก้ไขกฎหมายดังกล่าว เพื่อประกันการจัดการหมอกควัน

นางฟู่หยิง กล่าวว่า ได้พิจารณาการแก้ไขกฎหมายนี้มาสามครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมติ ซึ่งจะดำเนินในปีนี้ ปกติแล้วกฎหมายฉบับหนึ่งจะผ่านการพิจารณาลงมติเพียง 3 ครั้งก็จะสามารถอนุมัติได้ แต่กฎหมายฉบับนี้ยังเพิ่มการพิจารณาอีก 1 ครั้ง เพื่อระดมสติปัญญาและความคิดเห็นจากบุคคลและฝ่ายต่างๆ ในสังคม รวมถึงรับทราบความสนใจจากสังคมและประชาชนมากยิ่งขึ้น

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040