สำนักข่าวซินหวารายงานว่า วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะกล่าวปาฐกถาที่มูลนิธิโคเบอร์ (Koerber Foundation) ของเยอรมนี นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวถึงประวัติศาสตร์ที่ทหารญี่ปุ่นรุกรานจีน รวมถึงเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิง โดยเน้นว่า ต้องจดจำเหตุสำคัญในประวัติศาสตร์ รักษาความยุติธรรมและสันติภาพของมนุษย์ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้อีก ต่อจากนั้น มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงญี่ปุ่นระบุว่า การที่นายสี จิ้นผิงกล่าวคำปราศรัยเกี่ยวกับญี่ปุ่นเช่นนี้ในประเทศที่สามนั้นไม่เหมาะสม และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
เหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยันโดยประชาคมโลกแล้ว เมื่อเดือนมกราคม ปี 1946 จีน สหภาพโซเวียต สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆทั้งหมด 11 ประเทศร่วมกันจัดตั้งศาลทหารระหว่างประเทศสําหรับตะวันออกไกล เพื่อสอบสวนและตัดสินคดีเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิง โดยยืนยันว่า ภายใน 6 สัปดาห์หลังจากทหารญี่ปุ่นยึดเมืองหนานจิง ชาวบ้านทั่วไปที่ถูกทหารญี่ปุ่นสังหารชีวิตมีจำนวนกว่า 2 แสนคน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมถึงศพที่ถูกทหารญี่ปุ่นเผาทำลาย ทิ้งลงไปในแม่น้ำ และทำลายด้วยวิธีการอื่นๆ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1946 ศาลทหารหนานจิงของจีนยืนยันว่า ทหารและชาวบ้านทั่วไปของจีนที่ถูกทหารญี่ปุ่นสังหารชีวิตมีมากกว่า 3 แสนคน
เดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ การประชุมคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 12 ครั้งที่ 7 มีมติที่กำหนดวันรำลึกชัยชนะสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น และวันรำลึกถึงผู้ประสบเคราะห์ร้ายในเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงแห่งชาติ
นายโจว เจี้ยนผิง สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนกล่าวว่า เหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงเป็นภัยของทั้งชนชาติจีน ควรแสดงความไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตด้วยการกำหนดเป็นวันสำคัญของชาติ เพื่อปลูกจิตสำนึกการรักชาติของชาวจีน