หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้ารายงานว่า วันนี้ (22 เมษายน 2557 ) นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางออกจากกรุงวอชิงตันไปเยือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซียและฟิลิปปินส์ ก่อนหน้านี้ นายจอห์น แครี่ รัฐมนตรีต่างประเทศ และนายชัค เฮเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้ไปเยือนเอเชียมาแล้ว การที่ผู้นำระดับสูงไปเยือนเอเชียอย่างต่อเนื่องนี้ ถูกมองว่าเป็นมาตรการสำคัญของสหรัฐฯ ที่ต้องการปรับความสมดุลในเอเชีย-แปซิฟิก
นายทอม โดนิลอน (Tom Donilon) ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เห็นว่า การปรับแนวทางการสร้างสมดุลในเอเชีย-แปซิฟิกมีสาเหตุดังนี้
หนึ่ง การประเมินอิทธิพลของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียช่วง 60 ปีที่ผ่านมา
สอง ความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงของสหรัฐฯ ในศตวรรษที่ 21 จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับภูมิภาคเอเชียอย่างใกล้ชิด
ปี 2009 ขณะที่รัฐบาลโอบามาเริ่มบริหารประเทศ เคยมีการตรวจสอบและวิเคราะห์นโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ โดยพิจารณาว่า ลงทุนในพื้นที่ใดมากเกินควรหรือน้อยเกินไปบ้าง ต้องปรับปรุงอย่างไรจึงจะจัดการทรัพยากรได้อย่างสมเหตุสมผล ได้ข้อสรุปว่า สหรัฐฯ จัดสรรทรัพยากรทางทหารในภูมิภาคตะวันออกกลางมากเกินไป แต่ยังทุ่มเทให้ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกไม่เพียงพอ
ส่วนนายหลี่ เหวิน รองผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลกของสภาวิทยาศาสตร์ทางสังคมจีนเห็นว่า การที่จีน อินเดียและอีกหลายประเทศในเอเชียพัฒนาขึ้นมาก ทำให้สถานภาพการเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ถูกท้าทาย จึงทำให้สหรัฐฯ ต้องวางแนวทางปรับความสมดุลในเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาฐานะการนำในภูมิภาคนี้ให้คงอยู่ต่อไป อีกทั้งป้องกันการท้าทายจากประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตขึ้นอีกหลายประเทศ รวมทั้งจีนด้วย