(เส้นทางสายไหมเป็นเส้นทางโบราณที่ใช้เดินทางคมนาคมขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจีนกับทวีปยุโรป เส้นทางสายไหม เกิดขึ้นมาร่วมหลายพันปีแล้ว เป็นเส้นทางการค้าที่มีโครงข่ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ)
หลังผู้นำจีนวางแนวทางการพัฒนาเส้นทางสายไหมทางทะเล เพื่อกระชับความร่วมมือและการไปมาหาสู่กันระหว่างจีนกับอาเซียน ทางการพื้นที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของจีน เช่น มณฑลฝูเจี้ยน และเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซีได้ตอบรับนโยบายนี้ทันที โดยมณฑลฝูเจี้ยนได้มีการจัดประชุมฟอรั่มทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับ "เส้นทางสายไหมศตวรรษใหม่" ขึ้นที่เมืองเฉวียนโจว มณฑลฝูเจี้ยน เมื่อไม่นานมานี้ และประกาศความพร้อมที่จะผลักดันความร่วมมือรอบด้านระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนกับประเทศอาเซียนให้ก้าวคืบหน้าต่อไป
เมืองเฉวียนโจว สถานที่จัดประชุมดังกล่าว เคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญในสมัยโบราณ มาร์โคโปโล นักเดินเรือชื่อดังชาวอิตาลีเคยได้เดินทางมาประเทศจีนโดยผ่านเส้นทางสายไหมทางทะเล และได้ลงเรือที่เมืองเฉวียนโจว เพื่อเดินทางกลับไปยังเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เจ้าหน้าที่ระดับสูงทางการมณฑลฝูเจี้ยนกล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการจัดประชุมฟอรั่มทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับ"เส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษใหม่"ครั้งนี้ก็เพื่อร่วมกันหารือทิศทางและรูปแบบความร่วมมือระหว่างจีน-อาเซียนในการพัฒนาเส้นทางสายไหมทางทะเล
นักการทูตจากประเทศอาเซียนที่ร่วมการประชุมครั้งนี้ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนตอบรับและชื่นชมแนวคิดการพัฒนาเส้นทางสายไหมทางทะเล เพื่อเสริมสร้างมิตรสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-จีน ส่งเสริมการไปมาหาสู่และเร่งขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน หลายคนเห็นพ้องกันว่า การพัฒนาเส้นทางสายไหมจะช่วยผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากช่วงทศวรรษแห่งยุคทองไปสู่ช่วงทศวรรษแห่งยุคเพชรดังที่ผู้นำจีนได้เคยกล่าวไว้
ด้านเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซีมีแผนจะเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวล่องเรือสำราญตามเส้นทางสายไหมทางทะเล
นักวิชาการที่เกี่ยวข้องชี้ว่า กว่างซีสามารถอาศัยจุดแข็งด้านภูมิประเทศ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวล่องเรือสำราญ เพื่อพัฒนากว่างซีให้เป็นศูนย์กลาง "เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21"
