ช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา คณะผู้แทนวงการต่างของญี่ปุ่นพากันเยือนจีน สื่อมวลชนให้ความสนใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นที่ตกในสภาพชะงักงันนั้น จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์จีน – ญี่ปุ่นเห็นว่า การเยือนจีนของคณะผู้แทนดังกล่าวคงมีส่วนช่วยผ่อนคลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น แต่รัฐบาลนายชินโซ อาเบะยังคงท้าทายและใส่ร้ายป้ายสีภาพลักษณ์ของจีนเหมือนเดิม ฉะนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นจะฟื้นสู่ปกติหรือไม่นั้น ปัจจัยสำคัญยังขึ้นอยู่กับรัฐบาลนายชินโซ อาเบะว่าจะมีการปรับเปลี่ยนแก้ความผิดของตนหรือไม่

ปีหลังๆ นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นใช้ท่าทีที่ไม่ถูกต้องต่อปญหาประวัติศาสตร์ และมีการกระทำผิดในข้อพิพาททางดินแดน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นตกในสภาพตึงเครียด โดยเฉพาะในช่วง 1 ปีที่นายชินโซ อาเบะบริหารอำนาจรัฐเป็นต้นมา ใช้ท่าทีไม่ถูกต้องต่อปัญหาประวัติศาสตร์หลายข้อ ก่อเหตุการณ์ท้าทายจีนหลายเรื่อง ทำให้สถานการณ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียดยิ่งขึ้น นับเป็นการสร้างอุปสรรคทางการเมืองที่ร้ายแรงต่อการปรับปรุงและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น

ผู้เชี่ยวชาญยังเห็นว่า การปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นให้ดีขึ้นนั้น สิ่งที่สำคัญคือรัฐบาลชินโซ อาเบะจะรู้และแก้ไขความผิดของตนหรือไม่ ฝ่ายญี่ปุ่นควรยอมรับปัญหาประวัติศาสตร์ด้วยท่าทีที่ถูกต้อง แสดงความจริงใจและความรับผิดชอบเพื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาคมโลก ยืนหยัดเดินสู่หนทางการพัฒนาอย่างสันติ จัดการปัญหาประวัติศาสตร์อย่างเหมาะสม ใช้ความพยายามที่แท้จริงเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ร่วมกันรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค

แต่ปัจจุบัน จีนและญี่ปุ่นยังไม่มีความพร้อมที่จะฟื้นฟูการไปมาหาสู่กันระหว่างผู้นำระดับสูง นายชินโซ อาเบะควรใช้ปฏิบัติการที่แท้จริง อาทิ ใช้ท่าทีถูกต้องในปัญหาประวัติศาสตร์ แก้ไขความผิดของตน ยอมรับว่าจีนกับญี่ปุ่นมีข้อพิพาทในปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ และแก้ไขปัญหาอย่างสันติด้วยการเจรจา เปิดประตูการเจรจาระหว่างจีนกับญี่ปุ่นที่ถูกเขาปิดไว้ในช่วงกว่า 1 ปีที่เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นต้นมา

รัฐบาลจีนได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่า จะรับฟังคำพูดของนายชินโซ อาเบะ โดยพิจารณาจากนโยบายหรือการกระทำของเขาเป็นสำคัญ กุญแจไขประตูความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นนั้นไม่อยู่กับจีน แต่อยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น

(Yim/Lin)