เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ที่ประชุมมรดกโลกครั้งที่ 38 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโดฮา เมืองหลวงกาตาร์ได้อนุมัติให้ภูมิประเทศแบบคาร์สต์ในภาคใต้ของจีนชุดที่สองเป็นมรดกโลก นอกจากนั้น ยังเห็นชอบให้แม่น้ำต้ายุ่นเหอ ตลอดจนนิวทัศน์ตามเครือข่ายทางเดินระหว่างเมืองซีอันกับเทือกเขาเทียนซานหรือว่าเส้นทางสายไหม เป็นมรดกโลก ทำให้ปัจจุบัน จีนกลายเป็นประเทศที่มีมรดกโลกมากเป็นอันดับที่สอง รองจากอิตาลี
การที่จีนประสบความสำเร็จในกระบวนการยื่อขอเป็นมรดกโลก แสดงให้เห็นว่า ทั่วโลกยอมรับในคุณค่าของวัฒนธรรมจีนและการอนุรักษ์วัฒนธรรมของจีนด้วย ซึ่งมีความหมายในทางบวก แต่ในอีกด้านหนึ่งจะเห็นได้ว่า หลังจากยื่นขอเป็นมรดกโลกได้สำเร็จ ได้บุกเบิกพัฒนามรดกโลกเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าห่วงเป็นอย่างมาก
นายซู จื้อเหลียง คณบดีคณะประวัติศาสตร์สถาบันมนุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยครูเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า ปัจจุบัน รัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งถือว่า การยื่นขอมรดกโลกเป็นผลงานทางการเมืองของพวกเขา และมีปรากฎการณ์บุกเบิกพัฒนาเศรษฐกิจมากเกินไปในเขตที่เป็นมรดกโลก
แน่นอน การบุกเปิกพัฒนาเศรษฐกิจในเขตที่เป็นมรดกโลกจะนำมาซึ่งกำไรต่อธุรกิจที่น่าพอใจในการพัฒนาของเขตนั้นก็ตาม แต่ว่า การบุกเบิกพัฒนามากเกินไปจะทำให้มรดกโลกตกอยู่ในสภาพที่มีอันตราย อาทิ ถ้ำผาม่อเกาคูที่เมืองตุนหวง ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีจิตรกรรมฝาผนังโบราณของจีนหลากหลายสมัย ซึ่งมีค่าด้านการวิจัยเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมากเกินไป ทำให้จิตรกรรมฝาผนังมากมายเกิดการเปลี่ยนสี แค่หลายสิบปีเท่านั้น ผลกระทบจากมนุษย์ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียหนักกว่าการกัดเซาะทางธรรมชาติที่นานกว่าพันปี
หลังการยื่นขอเป็นมรดกโลกได้สำเร็จ กิจกรรมบุกเบิกพัฒนาธุรกิจการค้าตลอดจนการท่องเที่ยวในเขตนั้นจะคึกคักขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม
ต่อประเด็นความขัดแย้งเช่นนี้ นายถัน เฟย นักวิเคราห์วัฒนธรรมกล่าวให้ความเห็นว่า จุดสมดุลคือ ต้องดำเนินการอนุรักษ์ก่อน ต้องเน้นการอนุรักษ์เป็นสำคัญ แล้วค่อยดำเนินการบุกเบิก นอกจากนั้น เขายังเสนอว่า เพื่ออนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมให้ดี ต้องยังคับใช้กฏหมายให้ดี เขากล่าวว่า มรดกโลกทางวัฒนธรรมบางแห่งไม่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีเมื่อเทียบกับอดีต ที่สำคัญก็เพราะ ไม่ได้ดำเนินการอนุรักษ์หรือการควบคุมบริหารตามมาตราฐานการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด ดังนั้น ต้องทำตามกฎหมายรวมทั้งกฏหมายว่าด้วยการอนุรักษ์โบราณสถาน ไม่ควรให้การบุกเบิกพัฒนาเพื่อธุรกิจอยู่เหนือกฏหมาย
In/LJ