สำนักข่าวแห่งประเทศจีนรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายเฉิน โจว อธิบดีกรมเอเชียกระทรวงพาณิชย์จีนตอบคำถามที่ว่า การเปิดตลาดให้กว้างขึ้นต่อกันระหว่างจีนกับอาเซียนนั้น จะกระทบถึงตลาดและอุตสาหกรรมต่างๆ ภายในประเทศอาเซียนหรือไม่ ว่า ประสบการณ์ของหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนสอดคล้องกับผลประโยชน์ร่วมกันของสองฝ่าย มีแต่เพิ่อความร่วมมือเท่านั้น จึงจะบรรลุการเอาชนะด้วยกัน และมุ่งสู่ตลาดโลกด้วยกัน
นายเฉิน โจว ได้แนะนำการประชุมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าจีน-อาเซียน งานมหกรรมจีน-อาเซียนครั้งที่ 11 และการประชุมสดยอดการค้าและการลงทุนจีน-อาเซียน พร้อมตอบคำถามของผู้สื่อข่าว
นายเฉิน โจว กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจีนเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก แถมเมื่อปี 2013 ยังกลายเป็นประเทศใหญ่อันดับหนึ่งด้านการค้าสินค้าของโลก แต่ถ้าคิดตามจีดีพีเฉลี่ยต่อคนแล้ว จีนกับประเทศพัฒนายังมีช่องว่างที่ใหญ่มาก นายเฉิน โจว ชี้ว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจโลกได้เข้าสู่ช่วงความผันผวนอย่างหนัก โดยมีปัจจัยที่ไม่มั่นคงหลายอย่างเพิ่มขึ้น ดังนั้น การร่วมมือเพื่อเอาชนะร่วมกันจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการพัฒนาของประเทศต่างๆ กล่าวได้ว่า จีนกับอาเซียนเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือที่เหมาะสมมาก ตั้งแต่เริ่มโครงการเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา สองฝ่ายได้บรรลุมาตรการหลายประการเพื่อสร้างความสะดวกต่อกันภายในเขตการค้าเสรี เปิดตลาดต่อกัน เพิ่มความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่กัน และส่งเสริมให้ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองฝ่ายเติบโตอย่างรวดเร็ว
นายเฉิน โจว กล่าวว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจีนจะนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกันจะมีการลงทุนในต่างประเทศมากกว่า 500,000 ล้าน เหรียญสหรัฐ และจะมีนักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวต่างประเทศกว่า 500 ล้านคน ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาของจีนจะมีส่วนช่วยเอื้อประโยชน์แก่ประเทศรอบข้างมากขึ้น โดยเฉพาะแก่ประเทศอาเซียน
In/Ldan