การปฏิรูปการศึกษาของจีนจะลดภาระให้ผู้ปกครองและนักเรียนได้มากน้อยแค่ไหน (1)
  2014-08-13 11:21:40  cri

สำหรับนักเรียนที่จะเข้าม. 1 กับนักเรียนที่จะเข้าม. 4 ยากลำบากเหลือเกินในการที่จะหาโรงเรียน และเด็กต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างมาก ต้องมีแข่งกันทั้งสองส่วน คือแข่งลูก ต้องพายามทำให้เด็กเก่งที่สุดและพร้อมที่สุดใน 3 ด้าน วิชาการเก่ง กีฬาแกร่ง คุณธรรมยอด ต้องได้รับการการันตีระดับมณฑล 3 ปีซ้อนจึึงจะถือว่าเก่งจริง กับอีกส่วนคือแข่งพ่อ พ่อแม่ใครจะมีโครงข่ายมากกว่า อันนี้คือรูปแบบเดิมๆ ซึ่งยังมีกลิ่นไอหลงเหลืออยู่จนถึงปีนี้ ตอนนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการปฏิรูปการศึกษาพร้อมๆ กับการปฏิรูปอย่างลึกในทุกๆ ด้าน

โรงเรียนชั้นประถมศึกษาในปักกิ่งใช้หลักสูตร 6 ปี เรียนหลายวิชา ได้แก่ภาษาจีน คณิตศาสตร์ อังกฤษ ดนตรี ศิลปะ วิทยาศาสตร์ สารสนเทศ คุณธรรมกับสังคม เป็นต้น เมื่อหลายปีก่อน ปักกิ่งก็ได้ยกเลิกการสอบเพื่อจบการศึกษาระดับประถมศึกษาและเข้าโรงเรียนมัธยม วัตถุประสงค์ก็เพื่อลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง โดยเปลี่ยนเป็นรูปแบบการเข้าเรียน 3 ทาง คือ หนึ่ง คัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านศิลปะ กีฬาและวิทยาศาสตร์ สอง ให้นักเรียนดีเด่นมีสิทธิ์เลือกโรงเรียนเกรดดีก่อนคนอื่น และสาม ใช้ระบบจับฉลากด้วยคอมพิวเตอร์ จับได้โรงเรียนไหนก็เข้าโรงเรียนนั้น แต่ผลที่ตามมาคงผิดกับวัตถุประสงค์เดิมของฝ่ายบริหารการศึกษา สิ่งที่แลกกับการยกเลิกการสอบเข้าโรงเรียนมัธยมคือ นักเรียนกับผู้ปกครองต้องทุ่มเทมากกว่าเดิมและเหนื่อยกว่าเดิมไม่รู้เท่าไหร่ เพราะต้องหันไปพึ่งโรงเรียนกวดวิชากันหมด เพื่อรับมือกับการสอบคัดเลือกนักเรียนที่โรงเรียนต่างๆ จัดขึ้นเอง ซึ่งยากกว่าการสอบทั่วไปเป็นสิบเท่า เพราะต้องสอบคณิตศาสตร์โอลิมปิก ซึ่งยากเกินกว่าที่เด็กทั่วไปจะรับได้ เฉพาะธุรกิจการฝึกความสามารถด้านคณิตศาสตร์โอลิมปิกอย่างเดียว ก็สร้างรายได้ให้กับโรงเรียนกวดวิชาต่างๆ ในปักกิ่งถึงปีละกว่า 200 ล้านหยวน สาเหตุมีเพียงอย่างเดียวคือ บรรดาโรงเรียนเกรดดีคัดเด็กด้วยคะแนนสอบคณิตศาสตร์โอลิมปิก แต่ผลการวิจัยแสดงว่า คณิตศาสตร์โอลิมปิกเหมาะกับเด็กที่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ ซึ่งมีไม่เกิน 5% ของเด็กวัยเดียวกันเท่านั้น แต่ก่อนการสอบแบบนี้เรียกว่าการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ เป็นวิธีคัดเลือกเด็กที่มีพรสวรรค์จริงๆ แต่กลับถูกใช้เป็นวิธีสอบเข้าโรงเรียนมัธยม และเครื่องมือหาเงินของโรงเรียนกวดวิชา บีบให้นักเรียนและผู้ปกครองต้องทุ่มเททั้งเวลาและเงิน วิ่งเต้นระหว่างโรงเีรียนกวดวิชาต่างๆ ชีวิตวัยเด็กแทนที่จะเปี่ยมไปด้วยความร่าเริงสดใส กลับกลายเป็นสมรภูมิที่เต็มไปด้วยข้อสอบที่ทำยังไงก็ไม่มีวันสิ้นสุด นอกจากนี้ การฝึกความสามารถพิเศษด้านศิลปะ กีฬาและวิทยาศาสตร์ ก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง เด็กจำนวนมากมายที่ฝึกเครื่องดนตรี เล่นกีฬา เรียนวาดภาพ เรียนวิชาหุ่นยนต์หรือวิชาอื่นๆ ส่วนใหญ่ถูกผู้ปกครองบังคับให้เรียน เป้าหมายคือเพื่อสอบเข้าโรงเรียนมัธยมเกรดดี นอกจากนี้ ยังมีอีกทางหนึ่งคือ นักเรียนดีเด่นมีสิทธิ์เลือกโรงเรียน นักเรียนดีเด่นหมายถึงเด็กดี เรียนเก่งและเก่งทางด้านกีฬาด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหัวหน้านักเรียน อีกทั้งต้องได้รับเกียรติยศระดับเมืองหรือมณฑลต่อเนื่องกันอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งนักเรียนทั่วไปยากที่จะทำได้ สรุปแล้ว 3 วิธีที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการแข่งลูก ยังมีอีกช่องทางหนึ่งคือ แข่งพ่อ หมายถึงการใช้เส้นสายและการให้สินบน ขึ้นอยู่กับว่าใครมีเส้นใหญ่กว่า ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดทุจริตคอรัปชันในวงการการศึกษาที่นับวันกำเริบยิ่งขึ้น จนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์มานาน

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040