เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงพลังงานและทรัพยากรเหมืองแร่อินโดนีเซียจัดตั้งคณะทำงานปฏิรูปหน่วยงานน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ เพื่อตรวจสอบปัญหาทุจริตคอรัปชันของหน่วยงานพลังงานซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมมานานหลายปี ถือเป็นมาตรการปฏิรูปหน่วยงานพลังงานอีกประการหนึ่งของนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย โดยก่อนหน้านี้เพิ่งปรับราคาน้ำมันให้สูงขึ้น ภายหลังจัดตั้งตณะทำงานปฏิรูปดังกล่าว ก็มีข่าวเผยว่า รัฐบาลอาจจะสั่งปิดบริษัทการค้าพลังงานในสังกัดบริษัทพลังงานแห่งชาติ

บริษัทการค้าพลังงานลงทุนโดยบริษัทพลังงานแห่งชาติอินโดนีเซีย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ มีหน้าที่นำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการแปรรูปน้ำมันดิบให้กับบริษัทพลังงานแห่งชาติ ส่วนสิงคโปร์เป็นศูนย์การค้าน้ำมันปิโตรเลียมของเอเชียและโลก มีคลังเก็บน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยเหตุนี้ อินโดนีเซียจึงตั้งบริษัทนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมไว้ที่สิงคโปร์ แต่เนื่องจากบริษัทนี้ไม่อยู่ในอินโดนีเซีย การกำกับดูแลจากรัฐบาลและประชาชนจึงเข้าไม่ถึง การดำเนินกิจการของบริษัทไม่โปร่งใส กลายเป็นปัญหาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มานาน

คณะทำงานปฏิรูปหน่วยงานน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ประกอบด้วยผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชน ส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและพลังงาน จะทำงานเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อจัดการปัญหาทุจริดคอรัปชันและการดำเนินการไม่โปร่งใสของหน่วยงานพลังงาน ลดความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับรัฐบาล โดยทีมงานได้เรียกพบผู้บริหารบางส่วนของบริษัทพลังงานแห่งชาติแล้ว และกำลังพิจารณาเรื่องการปิดบริษัทการค้าพลังงานในสิงคโปร์ ส่วนผลการตัดสินสุดท้ายจะยื่นให้ประธานาธิบดีโดยผ่านกระทรวงพลังงานและทรัพยากรเหมืองแร่ สื่อมวลชนอินโดนีเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด คงจะไม่ตัดสินใจง่ายๆ ว่าจะปิดบริษัทดังกล่าวหรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ จะดำเนินการตรวจสอบบริษัทนี้อย่างละเอียด