เมื่อเร็วๆนี้ สื่อมวลชนเวียดนามรายงานว่า การเจรจาว่าด้วยการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับเกาหลีใต้ครั้งที่ 9 ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม และหมายจะลงนามในข้อตกลงนี้ในปลายปี 2014 โดยหวังว่า จะทำให้ยอดมูลค่าการค้าแบบทวิภาคีระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นจาก 28,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2013 เป็น 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020

ปีหลังๆนี้ เวียดนามกับเกาหลีใต้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด หลังจากสองประเทศได้สร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เมื่อปี 2009 เป็นต้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้งสองฝ่ายยังให้ความสนใจด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าเป็นที่สำคัญ ปัจจุบัน เกาหลีใต้เป็นคู่การค้าใหญ่อันดับที่ 4 ของเวียดนาม และเวียดนามเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับที่ 9 ของเกาหลีใต้ ในการค้าระหว่างเกาหลีใต้กับประเทศในอาเซียนนั้น การค้าระหว่างเวียดนามกับเกาหลีใต้อยู่อันดับที่ 2 รองลงจากสิงคโปร์ เกาหลีใต้เป็นประเทศอันดับที่ 3 ที่มีการลงทุนโดยตรงในเวียดนาม

ปีหลังๆนี้ เกาหลีใต้ให้ความสนใจพัฒนาความร่วมมือทางการค้ากับเวียดนามเป็นสำคัญ สาเหตุสำคัญคือ หนึ่ง เกาหลีใต้ไม่พอใจกับสภาพการพัฒนาทางการค้ากับประเทศอาเซียนของปัจจุบัน เมื่อปี 2007 เกาหลีใต้กับอาเซียนได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีและเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีเดียวกัน แต่ประสบผลสำเร็จน้อยมาก ด้วยเหตุนี้ เกาหลีใต้จึงมีความจำเป็นจะต้องจัดการเจรจาและลงนามข้อตกลงการค้าเสรีในรูปแบบคู่ค้าสำคัญในอาเซียนต่างหาก กับเวียดนาม อินโดนีเซีย เป็นต้น โดยในขณะที่กำลังพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศดังกล่าวนั้น ก็จะพยายามบุกเบิกตลาดในอาเซียนและขยายฐานการค้าของเกาหลีใต้ในประเทศเอเชียให้มากยิ่งขึ้นด้วย สองคือ รัฐบาลญี่ปุ่นกับเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีและมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2009 เกาหลีใต้กังวลว่า ข้อตกลงนี้จะส่งผลกระทบไม่ดีต่อการค้าระหว่างเวียดนามกับเกาหลีใต้ และสาม เนื่องจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศในอาเซียนมีความแตกต่างกันมาก ข้อตกลง越南/การค้าระหว่างเกาหลีใต้กับอาเซียนฉบับนั้นไม่สามารถจะให้การค้ามีลักษณะเสรีอย่างสูง ดังนั้น เกาหลีใต้จำเป็นต้องจัดการเจรจาและลงนามข้อตกลงการค้าเสรีแบบทวิภาคีกับประเทศที่สอดรับกับเอกลักษณ์ของตนและมีระดับสูงมากยิ่งขึ้น

ปีหลังๆนี้ เนื่องจากค่าจ้างแรงงานของจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีประเทศจำนวนไม่น้อยในโลกเริ่มเปลี่ยนทิศทางการลงทุนและการค้าไปยังเวียดนาม อินเดียและฟิลิปปินส์ เป็นต้น ในกระบวนการโยกย้ายอุตสาหกรรมนี้ เวียดนามได้กลายเป็นประเทศส่งออกสินค้าปั่นทอใหญ่อันดับที่สองของโลก รองลงจากจีนเท่านั้น

Yim/lj