สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนจีนต่อดอลลาร์สหรัฐฯลดลงอย่างมากติดต่อกันหลายวัน โดยได้สร้างสถิติต่ำสุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ยุโรปกับสหรัฐฯเริ่มใช้นโยบายการเงินตรงกันข้าม ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนจีนจึงนับวันสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ นักเศรษฐศาสตร์โดยทั่วไปเห็นว่า ธนาคารกลางของจีนคงต้องใช้มาตรการต่างๆเพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินหยวน
นักวิเคราะห์เห็นว่า แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจจีนยังไม่มีแรงขับเคลื่นที่แข็งขัน ดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องเป็นแรงกดดันแก่เงินหยวนอย่างมาก แต่ธนาคารกลางของจีนไม่อาจทนให้ค่าเงินหยวนอ่อนลงอย่างหนัก ต้องพยายามใช้มาตรการที่มีประสิทธิผลเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจในภาพรวม และคุ้มครองฐานะของเงินหยวนในตลาดโลกในระยะยาว
ไตรมาสที่ 4 ปี 2014 สหรัฐฯยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 ผู้คนในแวดวงการเงินต่างคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯจะออกมาตรการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นและยุโรปทยอยกันออกนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ ทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น นักเศรษฐศาสตร์เห็นว่า ขณะที่ประเทศต่างๆใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ เงินหยวนกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่ต้องลดค่านับวันโดดเด่นยิ่งขึ้น
นายเจ้า ชิ่งหมิง หัวหน้านักวิจัยปัญหาเศรษฐกิจมหภาคของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศจีนกล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจจีนเข้าสู่ช่วงชะลอตัวก็ตาม แต่ดัชนีการบริโภคและดัชนีการมีงานทำไม่ได้ถูกกระทบอย่างหนัก
เขากล่าวว่า เศรษฐกิจยิ่งมีขนาดใหญ่ อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราก็ยิ่งควรมีเสถียรภาพ ปัจจุบัน ดอลลาร์สหรัฐฯยังเป็นสกุลเงินที่มีอิทธิพลสูงสุดในตลาดการเงินของโลก การรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินหยวนจีนกับดอลลาร์สหรัฐฯนั้นจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการค้าต่างประเทศของจีน และเป็นผลดีต่อการรักษาฐานะของเงินหยวนจีนในตลาดโลกอีกด้วย