เมืองต้าเหลียน

เมืองต้าเหลียนเป็นเมืองใหญ่ของมณฑลเหลียวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ริมชายฝั่งทะเลป๋อไห่และหวงไห่ เป็นเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจ การค้า อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวในเขตภาคตะวันออกของจีน

Pic2.1 เมืองต้าเหลียน

เมืองต้าเหลียนมีสิ่งแวดล้อมที่ดี หน้าหนาวไม่หนาวจัดเหมือนเมืองฮาร์บิน หน้าร้อนเย็นสบาย อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของทั้งปีประมาณ 10.5 องศา สูงสุด 37 องศา ต่ำสุดลบ 19 องศา แม้ในเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด อุณหภูมิโดยเฉลี่ยเป็นเพียง 24 องศาเท่านั้น มีชื่อว่าเมืองโรแมนติค เมืองสวนดอกไม้ของจีน

การไปเที่ยวเมืองต้าเหลียนในหน้าร้อน สามารถตากแดดเดินท่องชายหาด ว่ายน้ำในทะเล รับประทานอาหารทะเล ทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่ในเขตแดนชั้นในรู้สึกเย็นสบาย สามารถหนีความร้อนได้ แต่มีปัญหาหนึ่งคือ มีนักท่องเที่ยวมากเกินไป ดังนั้น การไปเที่ยวเมืองต้าเหลียนในหน้าหนาวจึงเป็นทางเลือกที่ดี ไม่เพียงแต่รับประทานอาหารทะเลและชมวิวทะเลที่สวยงามได้เหมือนหน้าร้อน หากยังสามารถเจอหิมะและอาบน้ำพุร้อนท่ามกลางหิมะได้ด้วย เป็นมนต์เสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง

เมืองต้าเหลียนมีจัตุรัสประมาณ 70 แห่ง เป็นเมืองที่มีจัตุรัสจำนวนมากที่สุดในเอเชีย เช่น จัตุรัสซิงไห่ จงซาน ไห่จือยุ่น ซีว่าง เซิ่งลี่ ก่างวาน เหรินหมิน โอลิมปิก และไห่จุน เป็นต้น จัตุรัสแต่ละแห่งมีลักษณะไม่เหมือนกัน เช่นจัตุรัสซิงไห่กินพื้นที่ 1,100,000 ตารางเมตร เป็นจัตุรัสในตัวเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย สร้างขึ้นเมื่อค.ศ. 1997 เพื่อต้อนรับฮ่องกงกลับสู่ปิตุภูมิ จัตุรัสซิงไห่ริมฝั่งทะเล สนามใจกลางมีเสาหวาเปี่ยวที่แกะสลักด้วยมังกร 9 ตัว พื้นดินปูด้วยหินอ่อน 999 ก้อน บนก้อนหินเหล่านี้แกะสลักด้วยลายของ 24 เทศกาลของจีนและ12นักษัตร นักท่องเที่ยวชอบถ่ายรูปกับนักษัตรประจำปีของตนเพื่อจะได้โชคดี พื้นที่ส่วนใหญ่ของจัตุรัสคลุมด้วยต้นไม้ชนิดต่างๆ และเป็นพื้นที่สีเขียวทั้งนั้น รอบจัตุรัสมีรูปปั้นการกีฬาชนิดต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งทำโดยเส้นเหล็กกล้าสีขาว สูงหลายเมตร โดยเฉพาะมีต้นสนอันเขียวขจีอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าหน้าร้อนหรือหน้าหนาว ยิ่งทำให้เห็นอย่างชัดเจน ดูสวยสะอาด มีชีวิตชีวา หน้าหนาวไปเที่ยว ท้องฟ้าแจ่มใส แสงอาทิตย์ส่องมาอย่างอบอุ่น ทำให้รู้สึกโล่งสบายใจ สมองก็สดชื่นทันที ในลานริมฝั่งทะเล มีเขตหนึ่งให้เลี้ยงนกพิราบ มีนกพิราบสีขาว สีเทาหรือเป็นลายๆ หลายสิบตัว เดินหรือบินรอบนักท่องเที่ยว ข้างหลังลานนี้มีที่ขายอาหารเลี้ยงนกพิราบ ถ้านักท่องเที่ยวถืออาหารในมือ นกพิราบจะบินมาเกาะอยู่บนแขนหรือมือ แล้วกินอาหารที่ประกอบด้วยข้าวโพดและธัญพืชชนิดอื่น พอกินหมดแล้ว มักบินรอบตัวผู้เลี้ยง บางตัวยืนอยู่บนหัวและไหล่ บางทีเดินรอบๆ ตัวผู้เลี้ยงอาหารไม่ยอมไป ไม่ว่าใครเมื่อเห็นสภาพเช่นนี้แล้ว ล้วนอยากซื้ออาหารมาเลี้ยงนกด้วยตนเองบ้าง

จัตุรัสซิงไห่

นอกจากจัตุรัสซิงไห่แล้ว ยังมีจัตุรัสอีกหลายแห่งน่าเที่ยว ไม่ว่าในตัวเมืองหรือริมฝั่งทะเล ล้วนเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจคลายเครียดได้อย่างดี

ถ้าขับรถเอง จะเสนอให้ขับรถไปตามถนนปินไห่ (ถนนริมฝั่งทะเล) ระยะทางยาว 32 กิโลเมตร จากทิศตะวันตกไปตะวันออก จะผ่านจัตุรัสซิงไห่ พิพิธภัณฑ์หอย สวนสัตว์ป่า รีสอร์ทจินซาทาน กระเช้าลอยฟ้า ซาฟารีต้าเหลียน ชายหาดหยินซาทาน สวนสาธารณะฟู่เจียจวง ยอดเขาเยี่ยนวัว สะพานเป่ยต้าเฉียว จัตุรัสรูปปั้นเสือ สวนป่านก สวนสาธารณะทะเลเหล่าหู่ทาน ไปจนถึงจัตุรัสไห่จือยุ่น ถนนสายนี้สร้างขึ้นระหว่างทะเลกับภูเขา บางส่วนสร้างตามภูเขา ต้องขับลดเลี้ยวไปมา แม้ว่าหวาดเสียวหน่อย แต่สามารถได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม มองเห็นทะเลสีครามอันกว้างใหญ่ไพศาล โดยเฉพาะนั่งอยู่ในร้านกาแฟริมฝั่งทะเลชมตะวันตกในยามเย็น โดยเฉพาะในหน้าหนาว ริมฝั่งทะเลแทบไม่มีคน จะรู้สึกถึงความสงบในใจ และสีสันที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวินาทีของธรรมชาติ ทำให้เราสามารถลืมแรงกดดันในชีวิต ความกลุ้มใจและกังวลใจได้ทันที

การอาบน้ำพุร้อน

นอกจากชมวิว เรื่องที่น่าสนใจที่ชาวจีนภาคเหนือชอบทำคืออาบน้ำพุร้อน เนื่องจากเมืองต้าเหลียนมีเขตภูเขามากมาย จึงมีทรัพยากรน้ำพุร้อนอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าภาคตะวันตกหรือภาคเหนือ ล้วนมีน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง ทีนี้จะแนะนำน้ำพุร้อนในเขตหว่าฝางเตี้ยน ห่างจากเมืองต้าเหลียนไปทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 70 กิโลเมตร มีโรงแรมหรือรีสอร์ทน้ำพุร้อนหลายแห่ง เช่น รีสอร์ทเซียงโจว มีทั้งโรงแรม สระว่ายน้ำ ที่อาบน้ำพุร้อน สวนสนุกของเด็ก และร้านค้าร้านอาหาร เล่นได้ตลอดทั้งวัน ส่วนโรงแรมน้ำพุร้อนหมิงหู จะเน้นการอาบน้ำพุร้อนและเล่นสกี น้ำพุร้อนที่นี่มีสระเล็กและใหญ่ทั้งหมด 22 แห่ง ซึ่งแบ่งเป็นบ่อน้ำแร่หลายชนิด น้ำสมุนไพร และน้ำเย็น อุณหภูมิของน้ำอยู่ระหว่าง 42-45 องศา แต่ที่น่าสนใจคือต้องอาบกลางแจ้ง ในหน้าหนาว โดยเฉพาะตอนเย็น อุณหภูมิโดยปกติจะต่ำกว่าลบ 5 องศา และมีลมแรงด้วย ผู้ที่อยากแช่น้ำพุร้อน ต้องกัดฟันสู้ วิ่งออกจากประตูของโรงแรมในชุดว่ายน้ำ แต่เมื่อลงในสระน้ำพุร้อนแล้ว จะรู้สึกอุ่นทั้งตัวทันที แต่การแช่น้ำพุร้อนไม่ควรนานเกินควร ดังนั้น เมื่อแช่ประมาณ 5 นาทีแล้ว จึงควรขึ้นมาจากสระ และเดินเท้าไม่เกิน 10 ก้าวเข้าสู่อีกสระหนึ่ง ทั้งหนาวทั้งอุ่น สนุกมาก โดยเฉพาะถ้ามีหิมะตก ยิ่งรู้สึกโรแมนติกมาก

กลางวันสามารถไปเล่นสกีบนภูเขาหลังสระน้ำพุร้อน และพาลูกเล่นหิมะในสนาม เล่นเหนื่อยแล้วไปรับประทานอาหารพื้นบ้าน เช่น หม้อเหล็กตุ๋นไก่บ้าน หม้อเหล็กตุ๋นเนื้อแพะที่โรงแรมเลี้ยงเองตามภูเขา เกี๊ยวน้ำไส้เนื้อปลา และนมเปรี้ยวที่ทำด้วยน้ำนมที่เอามาจากวัวนมที่โรงแรมเลี้ยงเอง เอร็ดอร่อย แก้ความเหน็ดเหนื่อยได้ทันที