สามมุมมอง "1 แถบ 1 เส้นทาง" (2)
  2015-04-20 16:26:14  cri

ตามเอกสาร "ความปรารถนาและปฏิบัติการผลักดันการสร้างแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21" ดังกล่าว ประเทศรายทางจะพยายามทำให้การวางผังก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและระบบมาตรฐานด้านเทคนิคให้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อร่วมกันผลักดันการก่อสร้างเส้นทางสัญจรระหว่างประเทศ ให้ค่อยๆ กลายเป็นเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมต่อภูมิภาคเอเชีย ยุโรปและแอฟริกา

ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศใหญ่ทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก ทางการจีนเห็นว่ ควรจะใช้รูปแบบการหารือเจรจากับประเทศต่างๆ เพื่อกำหนดรูปแบบการบริหารโลกใหม่ และกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในอนาคต อย่างเช่น การริเริ่มรูปแบบความร่วมมือกันอย่างเปิดเผยระหว่างประเทศในเอเชียและประเทศรายทาง "1 แถบ 1 เส้นทาง" จะสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์

แนวโน้มเศรษฐกิจจีนเป็นที่น่าสนใจ หลังจากเศรษฐกิจจีนเข้าสู่ยุคดุลยภาพใหม่แล้ว จะนำมาซึ่งโอกาสทางการตลาด การเติบโตของเศรษฐกิจ การลงทุนและความร่วมมือมากยิ่งขึ้นให้กับประเทศเอเชียและทั่วโลก คาดว่า 5 ปีข้างหน้า จีนจะนำเข้าสินค้ามูลค่ากว่า 10 ล้านล้านเหรียญหรัฐฯ การลงทุนต่อต่างประเทศกว่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวต่างประเทศจะเกินกว่า 500 ล้านคน

นายหลี่ กวางฮุย รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า ด้วยการสร้าง "1 แถบ 1 เส้นทาง" จีนหวังว่าจะร่วมแบ่งปันผลสำเร็จของการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกของจีนกับประเทศรายทางต่างๆ ทำให้ประเทศเหล่านี้ได้ประโยชน์จากการพัฒนาของเศรษฐกิจจีน

มุมมองด้านประชาชน จะร่วมสร้างชีวิตที่ดีงาม

นายซุน เว่ยจุน ผู้รับผิดชอบกลุ่มบริษัทจวี้หรงจีน ที่ได้เปิดโรงงานในอินโดนีเซีย มาเลเซียและแอฟริกากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อปี 2006 ขณะที่วางพิมพ์เขียวลงทุนต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่หารือกันนั้น ไม่ใช่การก่อสร้างโรงงานหรือนิคมอุสาหกรรมแต่อย่างใด แต่คือหารือเรื่องที่ควรจะสร้างโรงเรียน โบสถ์และสุเหร่าในเขตไหนของนิคมอุตสาหกรรม

ภายใต้แนวคิดเช่นนี้ กลุ่มบริษัทจวี้หรงใช้รูปแบบความร่วมมือตั้งสหกรณ์การเกษตรกับประชาชนท้องถิ่น จนถึงปัจจุบันได้เปิดสหกรณ์ในหมู่บ้านกว่า 50 แห่ง ประชาชนท้องถิ่นกว่า 20,000 คนได้ประโยชน์จากการนี้

อันที่จริง "1 แถบ 1 เส้นทาง" มิเพียงแต่จะเพิ่มรายได้และโอกาสการมีงานทำแก่ประชาชนจีนและประชาชนประเทศรายทางเท่านั้น ยังจะยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้สูงขึ้น อาทิ การท่องเที่ยว การศึกษา วัฒนธรรม การซื้อของและการรักษาพยาบาล เป็นต้น

ด้านการท่องเที่ยว จะกระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ของเส้นทางสายไหม ทำให้การทำวีซ่าของนักท่องเที่ยวประเทศรายทางต่างๆ มีความสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงระบบการคมนาคมระหว่างประเทศที่สะดวกและมากยิ่งขึ้น ในกาลข้างหน้า นักท่องเที่ยวจีนเมื่อตัดสินใจไปเที่ยวต่างประเทศ สามารถเดินทางในวันรุ่งขึ้น และนั่งรถไฟความเร็วสูงไปเที่ยวประเทศยุโรปก็เป็นเรื่องง่ายๆ ทีเดียว

ด้านการซื้อของ จีนจะร่วมกับประเทศและภูมิภาครายทาง จัดตั้งเขตการค้าเสรี หารือรูปแบบการค้าใหม่ พัฒนาอีคอมเมอร์ข้ามแดน เป็นต้น ทั้งนี้ ล้วนมีบทบาทผลักดันการซื้อของของผู้บริโภคภายในประเทศ อย่างเช่น การส่งสินค้าผ่านด่านศุลกากรและการขนส่งระหว่างประเทศที่สะดวกยิ่งขึ้นนั้น จะทำให้ผู้บริโภรคจีนสามารถหาซื้ออาหารสดจากต่างประเทศง่ายขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น

ด้านการศึกษาและวัฒนธรรม แต่ละปี รัฐบาลจีนจะให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษา 10,000 คนของประเทศรายทาง และจะร่วมจัดงานปีวัฒนธรรม เทศกาลศิลปะและเทศกาลภาพยนตร์กับประเทศรายทางต่อเนื่องกัน นอกจากนั้น นักศึกษาจีนที่จะไปเรียนต่างประเทศ ก็มีทางเลือกมากขึ้นเช่นกัน ส่วนการจัดงานวัฒนธรรมระหว่างประเทศต่างๆ นั้น จะทำให้เรามีโอกาสสัมผัสกับอารยธรรมดีเด่นของท้องที่ต่างๆ ทำให้ชีวิตมีสีสันและดีงามยิ่งขึ้น

ท้ายสุด ความเข้าใจและความรักระหว่างประชาชนจีนกับประเทศรายทาง เป็นพื้นฐานสำคัญของ"1 แถบ 1 เส้นทาง" จะนำมาซึ่งกำลังขับเคลื่อนอันถาวรแก่การสร้าง "1 แถบ 1 เส้นทาง" ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจ และเพิ่มความผาสุกให้กับประชาชนประเทศรายทาง

(In/Lin)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040