การแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนเสพติดอินเตอร์เน็ต (2)
  2015-07-02 12:41:06  cri

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุดในโลกและ กำลังประสบปัญหาเด็กและเยาวชนเสพติดอินเตอร์เน็ตอย่างหนัก จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องที่ประกาศเมื่อปี 2013

เด็กและเยาวชนจีนที่ประสบปัญหาเสพติดอินเตอร์เน็ตมีจำนวนประมาณ 24 ล้านคนจากจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตของจีนทั้งหมดหลายร้อยล้านคน

สำหรับกิจกรรมที่ทำให้เด็กและเยาวชนชาวจีนเสพติด

อินเตอร์เน็ตนั้น อันดับแรกคือ การเล่นเกมออนไลน์ อันดับสอง คือ การชมหนังการ์ตูน ภาพยนตร์ และดาวน์โหลดเพลงออนไลน์ และอันดับสาม คือ การสนทนาผ่านโซเชียลมิเดีย และการหาคู่ออนไลน์

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เมื่อหลายปีก่อน จีนได้มีการเปิดศูนย์บำบัดเด็กและเยาวชนที่ติดอินเตอร์เน็ตและเกมส์ออนไลน์แห่งหนึ่งที่เขตต้าซิง ในกรุงปักกิ่ง สถานบำบัดแห่งนี้มีลักษณะคล้ายค่ายทหาร โดยให้เด็กและเยาวชนออกกำลังกาย และรับฟังคำสั่งในการปฏิบัติตน เพื่อเลิกการเสพติดอินเทอร์เน็ต รวมถึงตัดขาดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด นอกจากนี้มีกระบวนการรักษาทางวิทยาศาสตร์ และให้คำแนะนำด้านจิตวิทยารวมทั้งการจัดคอร์สให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองเด็ก ๆ ที่เข้ารับการบำบัดว่า จะต้องดูแลบุตรหลานอย่างไร โดยคอร์สนี้ใช้ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน

หลี่ หยางหลิน นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่งเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาถูกเกมส์ออนไลน์ครอบงำทีละเล็กทีละน้อย ทำให้ผลการเรียนตกต่ำลงเรื่อยๆ แต่หลังจากเข้าไปอยู่ในศูนย์บำบัดเด็กและเยาวชนที่ติดอินเตอร์เน็ตและเกมส์ออนไลน์แห่งนี้แล้ว เขาเริ่มตระหนักถึงพิษภัยของการเล่นเกมส์ออนไลน์ ขณะนี้ เขาไม่อยากเล่นเกมส์ออนไลน์อีกแล้ว

นายซู ลี่ถิง นักจิตวิทยา ผู้อำนวยการศูนย์บำบัดแห่งนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า

เด็กและเยาวชนที่ติดอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจความรู้สึกของคนทั่วไปเท่าใดนัก บางคนยังเคยมีพฤติกรรมปล้นจี้ ขโมยเงิน หรือของจากพ่อแม่ด้วย เพียงเพื่อนำเงินไปเล่นเกมส์ออนไลน์ บางคนถึงกับฆ่าตัวตายเมื่อพบว่าชีวิตล้มเหลว หรือไร้ความหมาย กระบวนการบำบัดของศูนย์แห่งนี้ทำให้บุคคลเหล่านี้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้สึกนึกคิดกับคนอื่น และต้องปฏิบัติตามวินัยที่ทางศูนย์ได้กำหนดไว้

นอกจากนี้ ยังทำให้ร่างกายของผู้ที่เข้ามารับการบำบัดมีความแข็งแกร่งขึ้นด้วย

สำหรับวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนเสพติดอินเตอร์เน็ต นักวิชาการแนะนำว่า ทุกภาคส่วนตั้งแต่ครอบครัว สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และภาครัฐต้องร่วมมือกันช่วยกันแก้ไข

ครอบครัวมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยป้องกันไม่ให้ลูกหลานเสพติดอินเตอร์เน็ต พ่อแม่ต้องเอาใจใส่ หมั่นสอดส่อง ตรวจสอบ ควบคุมดูแลลูกหลายของตน ต้องมีการจัดตารางเวลาการใช้อินเตอร์เน็ต เช่น อนุญาตให้ใช้อินเตอร์เน็ตได้หลังจากทำการบ้านเสร็จในช่วงเวลาไหน นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังต้องพยายามหากิจกรรมอื่นๆ ให้บุตรหลานทำ เช่น เล่นกีฬา เล่นดนตรี อ่านหนังสือ เป็นต้น

ส่วนสถาบันการศึกษา ครู อาจารย์มีบทบาทสำคัญในการสอดส่องดูแล ให้คำแนะนำที่ถูกต้องในการใช้อินเตอร์เน็ต ต้องมีการบล็อกไม่ให้นักเรียน นักศึกษา เข้าใช้เว็บไซต์ที่อาจส่งผลให้เกิดการใช้อินเตอร์เน็ตในทางที่ไม่ถูกต้อง

สำหรับในส่วนของภาครัฐ ต้องมีนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน เช่น รัฐบาลเกาหลีใต้มีบริการแจกซอฟต์แวร์ฟรีให้กับผู้ที่ต้องการแก้นิสัยเสพติดเกมส์ออนไลน์ และอินเตอร์เน็ต ซึ่งแบ่งซอฟต์แวร์ที่ให้บริการฟรีออกเป็น 2 ประเภท ชนิดแรกเป็นซอฟต์แวร์ตั้งเวลาการปิดอินเตอร์เน็ต ส่วนอีกประเภทจะมุ่งไปที่ผู้เสพติดเกมส์ โดยจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ทำให้เกมที่เล่นอยู่ยากขึ้น ทำให้ผู้เล่นเกิดความเบื่อหน่าย เมื่อไม่สามารถเอาชนะได้

ส่วนภาคเอกชนควรมีการจัดโครงการที่ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนใช้อินเตอร์เน็ตในทางที่สร้างสรรค์ เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถดูแล ตนเองได้ ดังนั้นหากทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะหลีกหนีห่างไกลจากการเสพติดอินเทอร์เน็ตได้อย่างแน่นอน

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040