เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ นายสี จิ้นผิงกับนายหม่า อิงจิ่ว ผู้นำสองฝั่งช่องแคบไต้หวันได้พบกันที่สิงคโปร์ นับเป็นการพบปะกันครั้งแรกของผู้นำสองฝั่งหลังปี 1949 จึงเป็นที่สนใจของทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญ และสื่อมวลชนไต้หวันต่างพากันระบุว่า การพบปะครั้งนี้ แสดงให้เห็นความเป็นครอบครัวเดียวกันของพี่น้องร่วมชาติระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน เป็นความเข้าใจร่วมกันของผู้นำสองฝั่งช่องแคบไต้หวันในปัญหาสำคัญ เช่น หลักการจีนเดียว และการฟื้นฟูของชนชาติจีน นอกจากนั้น ยังแสดงให้เห็นความเด็ดขาดของผู้นำทั้งสองในการแบกรับภารหน้าที่ทางประวัติศาสตร์และร่วมกันสร้างอนาคต

นายเจิ้ง โย่วผิง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยไทเประบุว่า รู้สึกตื่นเต้นมากยามเห็นภาพที่ผู้นำทั้งสองจับมือกันผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ "ผมตื่นเต้นมาก เมื่อเห็นภาพนี้ ประชาชนจีนตกทุกข์ได้ยากเป็นเวลานาน จากการแตกแยกในอดีตจนผู้นำสองฝั่งได้พบปะกัน และจับมือกัน ซึ่งการจับมือที่ข้ามศตวรรษของผู้นำทั้งสองยาวนานถึง 81 วินาที โดยมีความหมายลึกซึ้งและยาวไกล"

ส่วนเส้า จงไห่ ผู้อำนวยการผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสองฝั่งช่องแคบไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ของมหาวิทยาลัยวัฒนธรรมจีนไต้หวัน ก็มีความตื่นเต้นเช่นเดียวกับนายเจิ้ง โย่วผิง และสนใจเป็นพิเศษกับการกล่าวปราศรัยของผู้นำทั้งสองที่เป็นไปในทางเดียวกัน

เขาระบุว่า "ผมสังเกตว่า ผู้นำทั้งสองต่างไม่ทราบว่า ฝ่ายตรงกันข้ามจะพูดอะไรบ้าง แต่พอพูดออกมาแล้ว ผมเห็นว่า มีจุดร่วมกันสองอย่าง หนึ่งก็คือ แนวคิดด้านนโยบายของพวกเขา ไม่ว่านโยบายต่อไต้หวันหรือต่อจีน ต่างมีความใกล้เคียงกัน กล่าวคือ หวังที่จะรักษาสันติภาพของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ของภูมิภาคและทั่วโลก ต่างเป็นไปตามความใฝ่ฝันร่วมกันที่ให้ประชาชาติจีนเจริญรุ่งเรือง สองคือหลักการจีนเดียว นายสี จิ้นผิงได้เน้นเป็นพิเศษอีกครั้งว่า หลักการจีนเดียวเป็นพื้นฐานความเชื่อถือกันทางการเมืองระหว่างสองฝั่ง ส่วนนายหม่า อิงจิ่วก็ได้ระบุถึงหลักการจีนเดียวอย่างลึกซึ้งด้วย ทั้งนี้แสดงว่า ความเข้าใจร่วมกันของสองฝั่งในด้านนี้มีระดับที่ใกล้ชิดมาก"