เมืองลั่วหยางแบ่งเป็นเขตเก่าและเขตใหม่ สิ่งก่อสร้างโบราณส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองเก่า ในเมืองเก่ามีซากวังโบราณ ผังเมืองเก่า ประตูเมืองเก่า นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์อีกกว่า 40 แห่ง ต่างจัดแสดงวัตถุโบราณที่มีประวัติศาสตร์หลายพันปี หรือวิถีชีวิตท้องถิ่น ศิลปะพื้นบ้าน ถ้าอยากชมบ้านเก่าและวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนลั่วหยาง ต้องไปที่ประตูลี่จิ่ง (丽景门) ซึ่งเป็นประตูเมืองเก่าที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์สุย กินพื้นที่กว่า 18,000 ตารางเมตร มี 4 ชั้น ได้ชื่อว่าเป็นประตูสำคัญอันดับหนึ่งในภาคกลางของจีน เมื่อขึ้นไปบนประตูเมืองโบราณแห่งนี้ จะได้ชมผังเมืองเก่าของลั่วหยาง บ้านเก่าทั่วไปสร้างด้วยอิฐสีเข้มและหลังคาสีเทา เหมือนกลับสู่สมัยโบราณอีก นักท่องเที่ยวมักรู้สึกว่า หากมาแล้วไม่ได้ขึ้นไปบนประตูลี่จิ่ง ก็เหมือนยังไม่ได้มาถึงเมืองลั่วหยาง ทุกคืน ประตูเมืองโบราณแห่งนี้จะเปิดไฟประดับเวลา 19.00-19.30น. จึงไม่ควรพลาดที่จะขึ้นไปชมวิวเมืองเก่าในช่วงนี้
เมื่อเดินผ่านเขตประตูเมืองเข้าไปแล้ว จะเห็นถนนแคบๆ สายหนึ่ง ริมสองข้างถนนเป็นบ้านเก่าทั้งนั้น ปัจจุบัน ล้วนเป็นร้านค้าขายของประเภทต่างๆ หรือร้านอาหารท้องถิ่น จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ของที่ระลึกที่น่าซื้อมีมากมายหลายอย่าง แต่ที่อยากแนะนำมากที่สุดคือเครื่องปั้นดินเผาเคลือบสี ซึ่งส่วนใหญ่มีลายดอกโบตั๋น เช่น แม่เหล็กติดตู้เย็นลายดอกโบตั๋น สร้ายคอเครื่องเคลือบรูปโบตั๋น ราคาจาก 5-6 หยวนถึงหลายพันหยวน เดินเรื่อยไปตามถนน จะเห็นร้านค้าเกือบทุกแห่งมีขายดอกโบตั๋นปลอมที่มีดอกโตๆ สีสันสดใส ขายเป็นช่อๆ ช่อละ 15 หยวน นักท่องเที่ยวต่างเห็นแล้วอดที่จะซื้อติดมือกลับไปบ้านไม่ได้ ถ้าไม่อยากถือดอกไม้ช่อใหญ่ ก็เลือกพัดหรือเสื้อลายดอกโบตั๋นที่คนขายเพิ่งวาดเสร็จก็ได้ เพราะคนขายท้องถิ่นแทบทุกคนวาดดอกโบตั๋นเป็นและสวยด้วย พัดอันละ10-20 หยวน น่ารัก เก็บง่าย และใช้ประโยชน์ได้ด้วย สาวๆ อาจหาซื้อที่ติดผมประดับด้วยดอกโบตั๋นก็ไม่เลว
นอกจากร้านขายของที่ระลึกแล้ว ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นอีกมากมาย อาหารที่นักท่องเที่ยวนิยมคือซุปเนื้อและเครื่องในแพะ ที่ส่งกลิ่นหอมชวนกินไม่เหม็นสาบเลยด้วย มีร้านหนึ่งตั้งชื่อว่า "100 ถ้วย" การันตีว่าอร่อยจริงๆ ลูกค้าต้องเข้าคิวยาว นอกจากนี้ ยังมีขนมหลากหลายชนิดที่ทำจากดอกโบตั๋น เช่น ขนมหวานไส้ดอกโบตั๋นแบบต่างๆ
นอกจากนี้ยังมี "ชาโบตั๋น" ตามการแพทย์แผนโบราณของจีน โบตั๋นมีสรรพคุณบำรุงเลือดและตับ แก้ฝ้า บำรุงผิว ดื่มน้ำโบตั๋นบ่อยๆ จะทำให้เลือดลมไหลเวียนคล่องตัว ผิวพรรณสดใสสวยงามขึ้น ลดความดันโลหิต แก้อาการเลือดจาง แก้ไอ แก้ท้องเสีย หรือแก้อาการปวดท้องสำหรับผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือนได้อีกด้วย
ออกจากถนนลี่จิ่งแล้วก็ไปแวะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นดู ในเมืองลั่วหยางมีพิพิธภัณฑ์กว่า 40 แห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ลั่วหยาง พิพิธภัณฑ์ศิลปะโบราณ พิพิธภัณฑ์หุ่นม้าหุ่นทหารสมัยราชวงศ์โจว พิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้าน และพิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตชน เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีศาลเจ้ากวนอู ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้ากวนอูที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีการจัดพิธีบูชาเทพกวนอูเป็นประจำทุกปี
เนื่องจากเมืองลั่วหยางเป็นเมืองขนาดกลาง ไม่ใช่เมืองใหญ่ ไม่ว่าไปสถานที่แห่งไหน ก็ไม่ต้องเสียเวลานาน ระบบขนส่งมวลชนสะดวกมากมีไปถึงทุกที่ รถแท๊กซี่มิเตอร์ก็เรียกหาได้ง่าย แถมราคาถูกด้วย โดยปกติจะไม่เกิน 5-10 หยวน
การเดินทางไปลั่วหยางมีความสะดวกมาก มีทั้งเครื่องบิน รถไฟธรรมดา รถไฟความเร็วสูง และทางด่วนสำหรับรถยนต์ หากโดยสารรถไฟความเร็วสูงจากกรุงปักกิ่งใช้เวลาไปลั่วหยางไม่ถึง 4 ชั่วโมง นอกจากเที่ยวบินภายในประเทศแล้ว ยังเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างลั่วหยางถึงกรุงเทพฯ และระหว่างลั่วหยางถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวในประเทศรอบข้างไปลั่วหยางได้สะดวก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลดอกโบตั๋น จะมีการเพิ่มเที่ยวบินอีกกว่า 30 เที่ยว
