เดือนมีนาคมปีที่แล้ว มีการจัดพิธีเริ่มต้นการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างเมืองอู่ฮั่นกับประเทศไทยที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย นายว่าน หย่ง นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่นและนายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรีไทย นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีนร่วมเปิดงานดังกล่าว ต่อจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการแลกเปลี่ยนในด้านเศรษฐกิจและการค้า วัฒนธรรม การศึกษา และการท่องเที่ยว ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือหลายฉบับ เช่น การสร้างเมืองวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป่ยโต่วจีน-อาเซียน และได้เปิดสำนักงานคณะกรรมการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย หอการค้าไทยประจำมณฑลหูเป่ยขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น เมื่อเดือนมีนาคมปี 2016 นี้ นายว่าน หย่งได้พบกับนายธีรกุล นิยม เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนที่เมืองอู่ฮั่น ทั้งสองฝ่ายบรรลุความเห็นเป็นเอกฉันท์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะเห็นชอบที่จะร่วมกันผลักดันให้มีการตั้งสถานกงสุลใหญ่ไทยที่เมืองอู่ฮั่น ตลอดจนปฏิบัติตามข้อเสนอของนายธีรกุลที่ให้ตั้งกลไกหารือระหว่างเทศบาลเมืองอู่ฮั่นกับสถานทูตไทย
พร้อมกับการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ยอดการนำเข้าส่งออกระหว่างเมืองอู่ฮั่นกับไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก ครึ่งแรกปีนี้ ยอดการค้าระหว่างอู่ฮั่นกับไทยมากถึง 343 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่อันดับหนึ่งของประเทศอาเซียน
ประเทศไทยเป็นแหล่งทุนต่างชาติอันดับที่สามใน 10 ประเทศอาเซียนของอู่ฮั่น ปัจจุบัน อู่ฮั่นมีบริษัทไทย 49 บริษัท ยอดการลงทุน 148 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กลุ่มซีพีและกลุ่มสัมมิท ได้ลงทุนในอู่ฮั่นหลายปีและมีผลการประกอบการที่ดี นอกจากนี้ บริษัทจากเมืองอู่ฮั่น 7 บริษัทก็ไปลงทุนที่ประเทศไทย
ปัจจุบัน เมืองอู่ฮั่นได้เปิดเส้นทางการบินระหว่างอู่ฮั่นกับกรุงเทพฯ กระบี่ สุราชฎร์ธานี ภูเกต เชียงใหม่ และพัทยา ทั้งหมด 6 เมือง ไปกลับสัปดาห์ละ 63 เที่ยว ท่าเรือหยางหลัวของเมืองอู่ฮั่นมีเส้นทางเดินเรือไปท่าเรือกรุงเทพฯ สัปดาห์ละ 2 เที่ยว ใช้เวลาเดินทางเพียง 14 วันเท่านั้น ทั้งสองฝ่ายจึงหวังว่า จะร่วมกันรักษาและพัฒนาเส้นทางทางอากาศและทางน้ำ เพื่อขนส่งผลไม้ ธัญญาหารและสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ พยายามสร้างเมืองอู่ฮั่นเป็นประตูของภาคกลางเชื่อมจีนกับประเทศไทยตลอดจนอาเซียน
สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมรชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินเยือนอู่ฮั่นหลายครั้ง ทรงสนพระทัยอาหารพื้นเมือง "รึกันเมี่ยน" หรือบ่าหมี่ร้อนแห้ง พระองค์ทรงส่งเสริมให้ไทยกับอู่ฮั่นมีการไปมาหาสู่กันมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการศึกษา
In/Ping