กาสะลองส่องจีน ตอน 64 : นักศึกษาเมืองผู้ดีแห่เรียนต่อจีนคับคั่ง
  2016-09-30 09:37:55  cri

ช่วงไม่กี่ปีมานี้จำนวนนักเรียนนักศึกษาจากสหราชอาณาจักรตัดสินใจเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมารับความรู้จากเหล่าซือแดนมังกรกันมากขึ้น ถึงขั้นที่เว็บไซต์ Student.com มีรายงานคาดการณ์ว่าอังกฤษเองจะเสียอันดับประเทศที่มีจำนวนนักเรียนต่างชาติมากที่สุดเป็นอันดับสองให้กับจีนภายในปี 2020

นักเรียนต่างชาติกว่า 397,000 คนเข้ามาศึกษาต่อที่จีนในปีที่แล้ว ตัวเลขนี้มากขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับหลายสิบปีก่อน ซึ่งก็ได้ทำให้จีนกลายเป็นประเทศยอดนิยมที่เด็ก ๆ ใฝ่ฝันจะมาศึกษาต่อเป็นอันดับที่สามรองจากแคนาดา เยอรมนี และฝรั่งเศส และหากเจาะจงไปที่ชาวอังกฤษโดยเฉพาะ จำนวนคนที่เข้ามาศึกษาต่อในระดับที่สูงกว่าหรือเข้ามาทำงานก็มีเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน

แนวโน้มที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เป็นเพราะโชคหล่นทับ ทว่ามาจากการวางแผนขับเคลื่อนโดยรัฐบาลจีนที่ทั้งผลัก ทั้งดัน ทั้งอัดฉีดเม็ดเงินมหาศาลเพื่อให้ระบบการศึกษามีมาตฐานสูงขึ้น ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งก็เพราะเพื่อความอยู่รอดของอังกฤษเองหลังประกาศตัวออกจากสหภาพยุโรป จนทำให้ต้องขวนขวายทำข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาจากซีกโลกตะวันออกมากขึ้น

คำกล่าวของโฆษก British Council ประจำจีนยืนยันได้ดีว่าจีนเอาจริงเอาจังกับการศึกษาขนาดไหน เขาบอกว่า "ทั้งในแง่ที่ว่าจีนลงทุนกับการศึกษาอย่างหนักจนกลายมาเป็นผู้คุมกุญแจด้านเศรษฐกิจและการเมืองบนเวทีโลก การพูดถึงกันในหมู่นักศึกษาถึงโอกาสมหาศาลที่จะได้รับ และเสียงชื่นชมของนายจ้าง มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ใคร ๆ ก็อยากจะมาศึกษาต่อ"

มองกลับมาที่บ้านเรา ค่านิยมการจบจากจีนเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโลกพัฒนามาถึงจุดที่ว่าภาษาที่สองอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการทำงานในอนาคต นั่นทำให้จีนกลายเป็นตัวเลือกของใครหลาย ๆ คน ผมเคยอ่านความคิดเห็นของเจ้าของธุรกิจท่านหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน เขาให้สัมภาษณ์สื่อว่าถ้าให้เลือกว่าจะรับเด็กธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่จบจากประเทศยอดนิยม หรือจบจากจีนเข้าทำงาน จะเลือกอะไร เขาแทบจะตอบแบบไม่คิดเลยว่าเลือกอย่างหลัง คนที่จะเป็นผู้นำโลกหรือองค์กรได้ต้องรู้ว่าจีนกำลังจะทำอะไร ถ้าเด็กคนนั้นไม่ได้เรียนในภาคอินเตอร์นั่นหมายความว่าเขาได้ภาษีจากการมีภาษาที่ 3 ซึ่งทุกวันนี้มันไม่ได้มีแค่ชาวจีน 1,300 ล้านคนที่ใช้ภาษาจีน แต่หลาย ๆ องค์กรที่ต่างก็ต้องปรับตัวเข้าหาจีนเพราะจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสหรัฐฯ ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาต้องมีทักษะตรงนี้เพิ่มเข้ามาด้วย คุณใช้ภาษาอังกฤษคุยกับเขา คุณก็ได้แค่ความคิดเขา แต่ถ้าคุณใช้ภาษาเขาคุยกับเขา คุณจะได้ใจเขา ผลลัพธ์ที่ได้มันต่างกัน

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่ผ่านมาอ่าน หรือตัวน้อง ๆ ที่ยังคงลังเลใจว่าจะเดินไปทางไหนต่อดี ผมยังคงอยากให้ใส่จีนเข้าไปในตัวเลือกนะครับ หากสงสัยตรงไหนทั้งการใช้ชีวิต ความน่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ทุนการศึกษา ลอง ๆ สืบค้นกันได้ ทุกวันนี้สามารถค้นหาได้ง่ายกว่าแต่ก่อนมากครับ แล้วพบกันสัปดาห์หน้า สวัสดีครับ

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040