ความรักกับการตั้งกฎเกณฑ์กับลูกน้อย (1)
  2017-03-22 10:43:00  cri

พร้อมๆ กับลูกน้อยมีพัฒนาการและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนจากนอนแบเบาะอยู่กับที่มาเป็นลุกนั่งและเดินเท่านั้น แต่พวกเขายังมีความคิดเป็นของตนเองมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองชาวจีน จึงเห็นควรที่จะต้องตั้งกฎเกณฑ์กับลูก เพื่ออบรมให้พวกเขารู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด

แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นเด็กอยู่ ซึ่งจะมีความต้องการและความปรารถนามากมายที่ต้องการบรรลุให้ได้ทันที อย่างเช่น อยากจะดูทีวีอีกหน่อย อยากจะกินขนมอีกชิ้น อยากจะนอนต่อ ยังไม่อยากลุกขึ้นจากเตียง เป็นต้น ดังนั้น เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองตามความต้องการ เด็กก็มักจะร้องไห้เสียงดัง หรือแสดงท่าทีไม่พอใจตลอดทั้งตอนเช้า ผู้ปกครองบางคนเห็นแล้วอาจจะใจอ่อนแล้วคิดว่า จำเป็นต้องตั้งกฎระเบียบกับลูกจริงหรือ ถ้าเข้มงวดกับลูกมากไป ลูกจะไม่รักและยิ่งไม่เชื่อฟังพ่อแม่หรือเปล่า ซึ่งผู้ปกครองบางรายอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีปู่ย่าตายายพูดปลอบใจหรือให้ท้ายหลานว่า ไม่ต้องฟังคำพูดของแม่หรือพ่อ มาหาย่า/ยาย ซึ่งยอมตามใจหลานด้วยความรัก

ขณะที่คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกก็เจอปัญหาแบบนี้ อย่างเช่น เรียกลูกทานข้าว แต่เขาอยาจจะเล่นของเล่นไม่ยอมกินข้าว ถ้าบังคับเขา เขาก็จะร้องไห้ บางครั้ง เราก็รู้สึกปวดหัว เพราะเขาร้องไห้เสียงดังมาก จึงต้องปล่อยให้เขาเล่นของเล่นต่อไป ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็รู้ดีว่าทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อเขาเติบโตขึ้นแล้วต้องใช้ชีวิตในสังคม ไม่ว่าใครอยู่ในสังคมต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ก็ยังไม่รู้ใช้วิธีอย่างไรจึงจะสอนให้ลูก ให้รู้ว่าบางครั้งต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ถึงจะถูก เพราะรู้สึกว่าลูกยังเล็ก ถ้าสอนอย่างเข้มงวดมากเกินไป จะโหดร้ายหรือเปล่า อีกทั้งยังกังวลว่า ถ้าดุมาก ลูกจะไม่รักเรา

ใช่ค่ะ มีเพื่อนเคยเล่าเรื่องทำนองนี้ให้ดิฉันฟังเหมือนกันว่า เธอรู้สึกว่าตนเองเข้มงวดเกินไปหรือเปล่า คือมีอยู่วันหนึ่ง ลูกชายวัยอนุบาลของเธออยากจะดูหนังการ์ตูนขณะทานอาหารเช้า ซึ่งปกติมีกฎว่าขณะกินข้าวไม่อนุญาตให้ดูทีวี แต่เพราะวันนั้น ลูกชายตื่นสาย เพื่อนคนนี้จึงกังวลว่าตนเองจะเข้างานสาย ดังนั้น จึงไม่ได้ยึดตามกฎเพื่อให้ลูกชายกินข้าวเร็วหน่อย ก็อนุญาตให้ลูกดูทีวี พอกินข้าวเสร็จแล้วก็ควรไปโรงเรียนอนุบาล แต่ลูกชายของเธอไม่ยอมปิดทีวี และร้องไห้งอแงใหญ่ ซึ่งเด็กควรต้องไปโรงเรียนแล้ว ส่วนเพื่อนของดิฉันก็ต้องไปทำงาน จะไม่ออกจากบ้านก็ไม่ได้ ดังนั้น เพื่อนของดิฉันจึงปิดทีวีทันที และหลังจากเธออุ้มลูกชายขึ้นรถแล้ว ก็ถามลูกว่า เสียใจเพราะว่าไม่ได้ดูทีวีใช่ไหม ลูกชายของเธอทำหน้าโกรธตอบว่าใช่ ปกติแล้ว ตอนลงจากรถลูกจะหอมแก้มเธอทุกวัน แต่วันนั้นก็ไม่มีลงรถเดินเข้าโรงเรียนไปเฉยๆ เรื่องนี้ทำให้เพื่อนของดิฉันรู้สึกเสียใจมาก ทำให้เพื่อนของดิฉันกลายเป็นคุณแม่ที่ไม่มีความมั่นใจตัวเองขณะสั่งสอนลูก เธอบอกว่า กลัวว่าถ้าสอนลูกเข้มงวดแบบนี้ต่อไป อนาคตลูกจะไม่สนิทไม่รักเธอหรือเปล่า ที่ถูกแล้วเธอควรสั่งสอนลูกอย่างนี้ต่อไปหรือไม่

Yim/kt

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040