นอกจากเสียงหัวเราะแล้ว ยังมีอีกหลายคำที่ถึงแม้ได้เรียนภาษาจีนแล้ว เมื่อพูดคุยทางเน็ต ก็อาจจะไม่เข้าใจ

บางคำเกิดขึ้นจากการออกเสียงของภาษาท้องถิ่น อย่างเช่น "你造吗？" ก็คือ "你知道吗？" หมายความว่า คุณรู้ไหม "酱紫" ก็คือ "这样子" หมายความว่า อย่างนี้ "表" ก็คือ "不要" หมายความว่า อย่า หรือไม่เอา ดังนั้น "不要这样" หรืออย่าทำอย่างนี้ ก็คือ "表酱" ซึ่งคำเหล่านี้มาจากสำเนียงไต้หวัน

เมื่อปี 2016 คำว่า "蓝瘦香菇" นิยมมาก จริงๆ คำเดิมคือ "难受想哭" หมายความว่า เศร้าใจและอยากร้องไห้ ซึ่งมาจากสำเนียงเขตกวางสี และคำว่า "赶脚" คือ "感觉" ตรงกับคำว่า "รู้สึก" ซึ่งมาจากสำเนียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

และยังมี "么么哒" เป็นคำเปรียบเสียงจุ๊บ เพื่อแสดงความชื่นชอบต่อคนอื่น ก่อนหน้านี้ ใช้กับเพียงเพื่อนสนิทหรือคู่รัก ปัจจุบัน ก็ใช้ได้กับคนอื่นได้ แต่ผู้หญิงจะใช้เป็นส่วนใหญ่ อีกคำหนึ่ง "萌萌哒" หมายความว่า น่ารักมากๆ และยังมี "呵呵哒" ซึ่งมาจากคำ "เฮอเฮอ" ก็มีความหมายเดียวกันกับ "เฮอเฮอ" หลายตัว

"蛇精病" จริงๆ คือ "神经病" หมายถึง โรคจิต ซึ่งมาจากคลิปรายการตลก "万万没想到" ในตอนเกี่ยวกับตำนานนางพญางูขาว "蛇精" ก็คือ นางพญางู เพราะเมื่อพูด "神经病" จะรู้สึกเป็นคำด่า จึงพูดเป็น "蛇精病" แทนเพื่อความตลก

และอีกคำหนึ่ง "友尽" หมายความว่า ไม่เป็นเพื่อนกันอีกแล้ว "友" ก็คือ เพื่อน "尽" หมายถึง สิ้นสุด ซึ่งส่วนใหญ่ใช้กับเพื่อนสนิท เป็นคำล้อ

ภาษาอินเตอร์เน็ตของจีนมีคำใหม่เกิดขึ้นอย่างเรื่อยๆ โดยล่าสุดของปี 2017 ก็คือคำว่า "ปลอม" ซึ่งมาจากเกมออนไลน์ ซึ่งสมาชิกทีมหนึ่งชอบกินเหล้า เวลาเล่นไม่ดี ก็จะหาข้ออ้างว่า "ผมอาจกินเหล้าปลอม" ทำให้คำว่า "ปลอม" นิยมขึ้น เมื่อสอบไม่ดี จะพูดว่า ฉันอาจใช้ปากกาปลอม ฉันอาจเรียนที่มหาวิทยาลัยปลอม ฉันอาจมีหัวปลอม หรือ ทำไมเงินใช้หมดเร็วขนาดนี้ ฉันอาจใช้เงินปลอม ทำไมฉันยิ่งลดความอ้วนยิ่งอ้วน ฉันอาจกินยาลดความอ้วนปลอม ทำไมแฟนไม่ให้ของขวัญในวันวาเลนไทน์ ฉันอาจมีแฟนปลอม เป็นต้น

แม้ว่าภาษาอินเตอร์เน็ตทำให้พ่อแม่ไม่เข้าใจว่าทำไมวัยรุ่นไม่พูดภาษาจีนอย่างถูกต้อง แต่จริงๆ แล้ว ก็มีผู้สูงอายุจำนวนมากยิ่งขึ้นรู้สึกวัฒนธรรมอินเตอร์เน็ตสนุกมาก และคุยกับวัยรุ่นอย่างไม่ลำบาก จริงๆ แล้ว ภาษาอินเตอร์เน็ตได้เพิ่มความสนุกให้กับการพูดคุย ในขณะที่เราพยายามเรียนรู้ภาษาที่ถูกต้อง พูดคุยด้วยภาษาอินเตอร์เน็ตก็ถือเป็นส่วนประกอบที่เพิ่มสีสันให้กับชีวิต