ผมกลับมาตาม ๆ เรื่องสตาร์ทอัพจักรยานเช่าในจีนอีกครั้งหลังเขียนเรื่องเกี่ยวกับมันไปแค่ไม่ถึง 2 เดือนที่แล้ว เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมายในวงการนี้ครับ บ้างสายป่านสั้นก็ถอยตัวไป ส่วนเจ้าไหนที่ออกตัวช้าก็ต้องหากลยุทธ์ใหม่ ๆ มามัดใจผู้บริโภค จนล่าสุดกับข่าวที่ผมไปเจอมาที่เขียนโดยคุณ Tashae พูดถึงการเช่าจักรยานที่ไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่ได้เช่าจักรยานอีกต่อไป

Tuhao Gold จากบริษัทสตาร์ทอัพ Cool Qi Bike คือเจ้าที่เข้ามาทำสงครามส่วนแบ่งการตลาดล่าสุดครับ แน่นอนว่ายิ่งมาทีหลังก็ต้องยิ่งทำการบ้านให้หนักกว่าคนอื่น เจ้านี้เขาเน้นเรื่องความมลังเมลือง เริ่มตั้งแต่ชื่อบริษัทที่ก็ตั้งให้ล้อกับตราสินค้าชื่อดังระดับโลกอย่าง "กุชชี่" ที่จะได้ไปลิงก์กับสีของตัวสินค้าตามภาพ

ยี่ห้อนี้ยังตอกย้ำสร้างความล้ำในล้ำด้วยการติดตั้ง "ที่ชาร์ตมือถือไร้สาย" ไว้มันด้วยเสียเลย หากคุณผู้อ่านท่านไหนตาม ๆ วงการสตาร์ทอัพจีนก็จะเห็นว่าไม่ใช่เฉพาะธุรกิจจักรยานเช่าเท่านั้นครับที่ครึกครื้น แต่ร่มพก พาวเวอร์แบงค์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เสื้อผ้า ที่จอดรถ ฯลฯ ที่ค่อย ๆ ทยอยออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

พอเห็นธุรกิจพาวเวอร์แบงค์กำลังตีตื้นมาแรง Coo Qi Bike ก็เลยจับทั้งสองมารวมกันเสียเลย โดยได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์และเต้าสำเสียบสำหรับชาร์ตแบตโทรศัพท์ทั้งในระบบแอนดรอยด์และไอโอเอสไว้ระหว่างแฮนด์บังคับ ซึ่งผู้ใช้งานก็สามารถชาร์ตมือถือได้ตราบเท่าที่มีการเช่าจักรยาน

สำหรับเมืองทดลอง 5 เมืองแรกที่ประชาชนจะได้ยลโฉมจักรยานสีทองนั้นได้แก่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น หางโจว และซีอานครับ สนนค่าเช่าบริการที่ 15 บาทต่อชั่วโมง ค่าประกันอีกราว 1500 บาท ซึ่งก็นับว่าค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น ๆ

มาฟังความเห็นของชาวเน็ตจีนเมื่อได้อ่านข่าวนี้นะครับ คุณ Mamudu "บอกว่าจักรยานเช่าเจ้านี้ดูประหลาดแบบเสี่ยงๆ นะ ก็รู้กันอยู่ว่าคนจีนขับรถไม่ค่อยระวังกันเท่าไหร่ การติดตั้งแบตเตอร์รี่ไว้ในจักรยานที่มันหายนะชัดๆ"

ส่วนคุณ Brandon บอกว่า "ไอเดียจักรยานเช่านี่มันก็ดีนะ แต่ชักจะเยอะเกินไปแล้วจนหลายครั้งที่มันไปขัดการสัญจรทางเท้าชาวบ้าน คนอยากจะจอดจะทิ้งตรงไหนก็ทำ ไม่เว้นแม้แต่ในคอนโดฉันเองก็ทำมาแล้ว"

เห็นได้ชัดว่าพัฒนาการของธุรกิจจักรยานเช่าสตาร์ทอัพในจีนวิ่งไปไกลแบบติดจรวดนะครับ เมื่อเทียบกับเกือบ 2 เดือนที่แล้ว ทว่าสิ่งที่ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมก็คือปัญหาการเคารพสิทธิทางเท้าของกันและกัน ปัญหานี้ยิ่งบ้านเรานี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ยังไงเสียหากขับขี่อย่างไรก็อย่าลืมทำตามกฎจราจรกันไว้นะครับ เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราและสังคม