ท่องอุทยานจิ้งหยวน เยือนวังฮ่องเต้ปูอี จักรพรรดิองค์สุดท้ายที่นครเทียนจิน (2)
  2017-08-17 12:01:38  cri

อุทยานจิ้งหยวน นครเทียนจิน เป็นวังที่ฮ่องเต้ปูอี จักรพรรดิองค์สุดท้าย พร้อมมเหสีหว่านหรง (婉容, ปี ค.ศ.1906—1946) และสนมเหวินซิ่ว (文绣, ปี ค.ศ.1909—1953) เคยพำนักระหว่างเดือนกรกฎาคมปี ค.ศ.1929 ถึงเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.1931

อุทยานแห่งนี้อยู่เลขที่ 70 ถนนอานซานเต้า เขตเหอผิง นครเทียนจิน (เดิมเป็นเขตเช่าญี่ปุ่น) เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1921 เดิมชื่อ สวนเฉียนหยวน เป็นบ้านของนายลู่ จงอี๋ว์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐจีนประจำญี่ปุ่น ต่อมาเป็นเป็นวังของฮ่องเต้ปูอี และเปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานจิ้งหยวน ซึ่งมีนัยยะว่า "รักษาความสงบเพื่อบำรุงจิตใจที่ซื่อตรงและยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้า"

อุทยานจิ้งหยวนมีพื้นที่ทั้งหมด ราว 3,016 ตารางเมตร พื้นที่ก่อสร้างราย 1,900 ตารางเมตร ปัจจุบันเป็นสถาปัตยกรรมที่ต้องอนุรักษ์เป็นพิเศษและโบราณสถานของนครเทียนจิน ภายในมีอาคารที่ก่อด้วยอิฐและไม้ 1 หลัง ซึ่งเป็นการหลอมรวมสถาปัตยกรรมสเปนกับญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน ท่ามกลางแมกไม้ที่เขียวขจี บรรยากาศที่เงียบสงบ น่าอยู่ จัดเป็นวังเก่าสุดคลาสสิกสมัยที่นครเทียนจินตกเป็นเขตเช่าของต่างชาติ

หนังสือบันทึกไว้ว่า ตอนที่ฮ่องเต้ปูอีทรงแปรพระราชฐานจากพระราชวังต้องห้ามกรุงปักกิ่งมาประทับที่นครเทียนจินนั้น มเหสีหว่านหรงก็เปลี่ยนชุดชาววัง มาเป็นชุดกี่เพ้าและรองเท้าหนังส้นสูง ทั้งยังดัดผมด้วย กลายเป็น "ผู้นำแฟชั่น" ของเขตเช่านครเทียน เรื่องที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ การไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพราะฮ่องเต้ปูอี จักรพรรดิองค์สุดท้ายมีพระราชทรัพย์มาก จึงทรงใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้ สิ่งที่ใช้การได้หรือใช้การไม่ได้ หากเข้าตาแล้วก็ต้องซื้อกลับมา จนกลายเป็นชนวนที่ทำให้เกิดการแย่งชิงกันระหว่างมเหสีหว่านหรงกับสนมเหวินซิ่ว ในที่สุดสนมเหวินซิ่วจึงขอหย่ากับฮ่องเต้ปูอี

ส่วนฮ่องเต้ปูอีที่แปรพระราชฐานจากพระราชวังในกรุงปักกิ่งมาอยู่ในเขตเช่านั้น ก็เอาอย่างความเจริญรุ่งเรืองของประเทศตะวันตก และใช้ชีวิตแบบชาวตะวันตก หันมาเสวยอาหารฝรั่งและดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวันที่อุทยานจิ้งหยวน เมื่อกว่า 80 ปีก่อน

ในพระราชนิพนธ์เรื่อง "ชีวิตครึ่งแรกของข้าพเจ้า" (《我的前半生》) อัตชีวประวัติที่เขียนโดยปูอี มีข้อความตอนหนึ่งถึงชีวิตประจำวันในอุทยานจิ้งหยวนว่า "เสื้อผ้าไม่ต้องพิถีพิถันมาก แต่มารยาทนั้นสำคัญมาก ถ้าดื่มกาแฟหรือดื่มน้ำเปล่า กินขนมเหมือนกินข้าว หรือ หยิบช้อนส้อมแบบเสียงดัง ก็จะแย่มากทีเดียว ที่อังกฤษ การกินขนม การดื่มกาแฟเป็น Refreshment การฟื้นฟูจิตใจ ไม่ใช่ทานข้าว......"

ปูอียังเล่าในพระราชนิพนธ์เรื่อง "ชีวิตครึ่งแรกของข้าพเจ้า" ว่า "กล่าวสำหรับข้าพเจ้าแล้ว อุทยานจิ้งหยวนไม่มีสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ชอบในพระราชวังต้องห้าม แต่มีสิ่งที่จำเป็นสำหรับข้าพเจ้า...ถึงแม้ข้าพเจ้าไม่ต้องแต่งชุดมังกร (ฉลองพระองค์) ที่ไม่คล่องแคล่ว และหันมาแต่งชุดธรรมดา และยิ่งกว่านั้นคือ แต่งชุดแบบฝรั่งแล้ว แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบกับผู้อื่นที่มากราบคุกเข่ากับข้าพเจ้า...ข้าพเจ้ารู้สึกว่าอาคารแบบฝรั่งที่มีส้วมชักโครกน้ำและเครื่องทำความอุ่น (ฮีทเตอร์) อยู่สบายกว่าที่พระตำหนักหย่างซินเตี้ยน (养心殿, ในพระราชวังต้องห้ามกรุงปักกิ่ง) ส่วนพระบรมวงศานุวงศ์จากปักกิ่งและบุคคลอื่นๆ ยังคงผลัดกันมา 'อยู่เวรเฝ้ารักษาข้าพเจ้า' " นี่คือการใช้ชีวิตของปูอีในอุทยานจิ้งหยวน

(IN/LING)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040