ถอดเสียงสัมภาษณ์นายพิรุณ ลายสมิต กงสุลใหญ่ไทยประจำนครเซี่ยงไฮ้
  2010-09-06 19:51:09  cri

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2010 ณ นครเซี่ยงไฮ้ นายพิรุณ ลายสมิต กงสุลใหญ่ไทย ณ นครเซี่ยงไฮ้ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภาคภาษาไทยซีอาร์ไอเป็นการเฉพาะ โดยระบุว่า ศาลาไทยในงานเวิลด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ได้ดึงดูดชาวจีนจำนวนมากเข้าไปชม ขณะเดียวกัน ยังมีชาวไทยจำนวนไม่น้อยเดินทางมาชมงานเวิลด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ การแลกเปลี่ยนเช่นนี้ได้ส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพที่ลึกซึ้งระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ รายละเอียดของการสัมภาษณ์มีดังนี้

ถาม ก่อนอื่นขอความกรุณาท่านกงสุลใหญ่เล่าถึงบทบาทของสถานกงสุลใหญ่ไทยประจำเซี่ยงไฮ้ในงานนี้ค่ะ

ตอบ สำหรับงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2010 จริง ๆ ศาลาประเทศไทยเรามีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบอยู่ โดยรัฐบาลไทยได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์เป็นเจ้าภาพหลักในการเข้าร่วมงานเวิลด์เอ็กซ์โปครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลไทยก็ได้สร้างศาลาประเทศไทย เป็นศาลาที่ค่อนข้างที่จะเด่นสง่า เพราะว่ามีสถาปัตยกรรมที่เป็นไทยแท้ คือ เข้าไปในงาน พอมองก็รู้เลย นี่คือประเทศไทย ก็อาจจะต่างกับศาลาอื่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นทรงเลขาคณิตศาสตร์ คือมองไปก็อาจจะไม่รู้ว่า เป็นศาลาประเทศอะไร ต้องไปดูชื่อประเทศ อันนี้ก็เป็นความโดดเด่นของศาลาประเทศไทย อันนี้ยังไม่พูดถึงการจัดแสดงที่อยู่ในศาลาไทย มี 3 ห้อง เป็นที่ชื่นชอบและเป็นที่นิยมของผู้เข้าชม ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือคนจีน หรือคนต่างชาติ ผมทราบจากคนจีนว่า ได้เข้าไปดู 2-3 เที่ยวก็สนุกสนาน ทีนี้บทบาทและหน้าที่ของสถานกงสุลไทยในเอ็กซ์โปครั้งนี้ คือ โดยที่ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพหลัก และก็มีเจ้าหน้าที่ดูแล เพราะฉะนั้น ภารกิจของทางสถานกงสุลก็คือ เราคอยสนับสนุนทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เพราะว่าเราอยู่ที่นี่ เราเป็นเจ้าของพื้นที่ในด้านนอก แต่ว่าในเอ็กซ์โปนี้ ทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เป็นเจ้าของพื้นที่หลัก เพราะฉะนั้นทั้งกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ที่ประจำอยู่ที่ศาลาไทยกับทางกงสุลนี้ เราจะร่วมมือกันอยู่ตลอดเวลา มีคณะผู้แทน ผู้หลักผู้ใหญ่มาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะติดต่อผ่านทางศาลาไทย หรือว่าผ่านทางกระทรวงต่างประเทศมายังสถานกงสุล เราก็จะประสานเพื่อให้คณะผู้แทนไทยเข้าไปได้ชมเอ็กซ์โป ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยในการอำนวยความสะดวกให้กับคณะผู้แทนไทย ส่วนใหญ่เราก็จะดูแลจากข้างนอกเอ็กซ์โป พอเข้าไปในเอ็กซ์โป ทางเจ้าหน้าที่ของศาลาไทยก็จะเป็นคนนำไป นอกจากในเรื่องการประสานงานกับทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์แล้ว ทางบทบาทของสถานกงสุลไทยก็คือ เขาช่วยประชาสัมพันธ์ โปรโมท ศาลาไทยกับคนเซี่ยงไฮ้และคนจีนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการตั้งแต่ก่อนที่เอ็กซ์โปจะเปิด แม้กระทั่งช่วงเอ็กซ์โปเปิด เราก็ยังคงประชาสัมพันธ์ประเทศไทยอีก ก่อนเอ็กซ์โปเปิด เราก็มีการจัดงานต่าง ๆ เป็นการโหมโรง และก็แนะนำศาลาไทยไปในตัว อย่างเช่นเรามีการจัดงานเทศกาลไทย เทศกาลตลาดน้ำไทย ก็จะมีกิจกรรมของศาลาไทยเข้าไปโหมโรงให้คนรู้ว่าศาลาไทยจะเป็นอย่างไรก่อนที่งานเอ็กซ์โปจะเปิด ในช่วงเอ็กซ์โปเปิดแล้ว เราก็พยายามเสริมกิจกรรมของทางศาลาไทยด้วย ศาลาไทยเองก็มีการแสดงนาฏศิลป์ ก็คือว่า มีการแสดงนาฏศิลป์ประกอบกับคนที่เข้าไปชม วันหนึ่งประมาณ 4-5 รอบ ในช่วงที่นาฏศิลป์ไม่ได้แสดงต่อเนื่อง ก็แสดงประมาณสัก 20 นาทีหรือครึ่งชั่วโมงและก็หยุด 1 ชั่วโมง ในช่วงที่ว่าง ทางสถานกงสุล เราก็พยายามไม่ให้มันเงียบ พอดีนักเรียนไทยในเซี่ยงไฮ้ก็สามารถเล่นดนตรีไทยได้ สถานกงสุลก็เลยจัดหาเครื่องดนตรีไทย และก็ขอให้นักเรียนไทยไปร่วมแสดงในช่วงที่ศาลาไทยว่าง เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศ และก็เป็นการแนะนำให้คนจีนที่มาเข้าชมหรือคนต่างชาติ ได้รู้จักดนตรีไทย เครื่องดนตรีไทย การแสดงอะไรต่าง ๆ อีกอันหนึ่งที่เราสนับสนุนทางศาลาไทยก็คือว่า เราก็มีการจัดโครงการ จัดชิมผลไม้ไทย ลำไย มังคุด เงาะ มีส้มปูบ้าง และก็มีมะขามบ้าง พอดีปีนี้ ความสัมพันธ์ไทยจีนครบรอบ 35 ปี เราก็ทำเอกสารให้ข้อมูลว่า 35 ปีนี้เราทำอะไรมาบ้าง เพื่อเป็นการให้ความรู้กับคนจีน ซึ่งก็มีจำนวนมากที่เขาไม่ทราบ ความรู้ซึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทยจีนมากนัก เขาก็จะได้ไปดู เราก็แจกให้กับคนจีนที่ไปเข้าคิวเพื่อเข้าชมศาลาไทย ก็เป็นการสร้างกิจกรรม และก็ให้มันสนุกสนาน คนจีนก็ชื่นชอบมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จริง ๆ แล้ว คนเซี่ยงไฮ้หรือคนปักกิ่งค่อนข้างรู้จักผลไม้ไทย ตามเมืองหลวง เมืองใหญ่ ๆ นี้จะรู้จักผลไม้ไทยพอสมควร แต่ว่าคนที่อยู่ตามมณฑลต่าง ๆ ที่อาจจะไม่มีกงสุล หรือยังเข้าไปไม่ค่อยถึง เขาก็ยังไม่ค่อยรู้จักผลไม้เท่าไร เพราะฉะนั้น อันนี้ก็เป็นโอกาสดี เพราะว่าคนจีนที่มาเยี่ยมชมเอ็กซ์โปและก็ศาลาไทย ส่วนใหญ่มาจากมณฑลต่าง ๆ เยอะ อันนี้ก็เป็นบทบาทหนึ่งที่เราพยายามที่จะทำให้ศาลาไทยมีชีวิตชีวา และก็มีกิจกรรมอยู่ตลอดเวลา อีกอันหนึ่งที่เราเข้าช่วย ก็คือพยายามที่จะสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของรัฐบาลเซี่ยงไฮ้และก็รัฐบาลจีน ที่จะโปรโมทงานเอ็กซ์โป ในงานเอ็กซ์โปนี้ เรามีนักเรียนไทย ช่วงนี้ก็ปิดเทอมพอดี เราก็เลยเข้ามาช่วยทำงาน ให้เราเป็นอาสาสมัคร เวลาเรามีคณะผู้หลักผู้ใหญ่มา เราก็ให้นักเรียนไทยช่วยพาไปศาลาโน้นศาลานี้ ไปชม หรือแม้กระทั่งเรามีผู้หลักผู้ใหญ่มา วีไอพีมา เราก็ขอให้นักเรียนมาช่วยประสานงานให้เรา นักเรียนกลุ่มนี้ เขาก็มีโอกาสที่จะไปชมศาลาต่าง ๆ มากมายในการพาคณะผู้แทนไทยไปเยี่ยมชม ซึ่งเยอะมาก คนไทยมาชมเยอะมาก ผมต้องยินดีกับทางเซี่ยงไฮ้ด้วย และก็ทางจีน เพราะว่าเวลาพาคนไปแต่ละศาลา เขาก็ถ่ายภาพมาด้วย และก็ได้ประสบการณ์ ก็ได้เห็นว่าข้างในแสดงอะไร เขาก็รวบรวมเป็นเล่มขึ้นมา อันนี้จะรวบรวมโดยนักเรียนไทยที่เรียนอยู่ที่นี่และก็อาสาสมัคร มีทุกศาลาเลยอยู่ในนี้ เขายังมีอีกหลาย ๆ อย่าง แม้กระทั่งทำแสตมป์ แสตมป์ที่ระลึกเอ็กซ์โป พอดีมันเป็นงานที่ทั้งสองเหตุการณ์สำคัญ อันที่หนึ่งคือเซี่ยงไฮ้เป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โป อันที่สองพอดีความสัมพันธ์ไทยจีนครบรอบ 35 ปี ก็เลยทำไว้สำหรับแจกทั้งคณะผู้แทนไทยและก็คนจีนที่ได้มีโอกาสมาติดต่อกับทางกงสุล อันนี้ทำไว้สำหรับแจกเป็นของที่ระลึก ไม่มีขาย

ถาม ในมุมมองของท่าน คิดว่าประเทศไทยได้อะไรบ้างจากงานเวิลด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้

ตอบ ผมบอกได้เลยว่า ได้มหาศาล หนึ่งสิ่งที่ได้ก็คือ ได้ความเป็นมิตรจากคนจีน เพราะว่า รัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนจีนเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปที่เซี่ยงไฮ้ตั้งแต่แรกครับ สอง มาสร้างศาลาไทย ทุกอย่างนี่เสร็จภายในกำหนดนะครับ ซึ่งทำให้ผู้บริหารเอ็กซ์โปของจีนก็มีความดีใจที่ทางไทยนี่ให้ความร่วมมืออย่างดี สาม ที่สำคัญ การที่ศาลาไทยมาตั้งอยู่ในเอ็กซ์โปนี่ เราได้มหาศาลในแง่การประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ประเทศไทยนี่มาตั้งอยู่ในนี้ ทำให้คนจีนในเมืองใหญ่ ๆ ซึ่งรู้จักประเทศไทยแล้ว แต่คนจีนที่อยู่ตามต่างมณฑลต่าง ๆ ที่รู้จักประเทศไทยยังน้อย และปกติดีใจที่ว่าคนส่วนใหญ่ที่มาชมงานเอ็กซ์โปนี่เป็นคนมาจากเกือบทั้งประเทศ เพราะฉะนั้น การที่เขาได้มาที่ศาลาไทยนี้ก็เท่ากับได้มาเยี่ยมประเทศไทย ผมเชื่อว่า หลายคนยังไม่เคยไปท่องเที่ยวประเทศไทย อาจจะไม่รู้จัก ผมทราบว่า ในแต่และวันนี่ มีคนจีนเข้ามาเยี่ยมชมศาลาไทยประมาณ 35,000 คนถึง 38,000 คนนะครับ พอดีเนื่องที่เราเล็กประมาณ 3,000 ตารางเมตร แต่เราบริหารจัดการให้คนเข้ามามากที่สุดตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มนะครับ การแสดงของเราทั้งหมดมี 3 ห้อง พรีเซนเทชั่นในแต่ละห้องประมาณสัก 3 - 4 นาที เพราะฉะนั้น ในทุก ๆ 4 – 5 นาทีจะมีคน 300 ร้อยคนขยับจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่ง ตลอดเวลาคิวที่เข้ามาชมศาลาไทยก็เลยไม่ยาวประมาณชั่วโมง เศษ ๆ ก็ได้ เพราะว่าทุก ๆ 5 นาที 300 คนจะขยับ ก็เลยทำให้คนเข้ามาได้เยอะ ทั้ง ๆ ที่เนื้อที่เราน้อยว่าของหลาย ๆ ประเทศนะครับ ประมาณ 3,000 ตารางเมตร แต่ทุกอย่างก็ทำให้เรามีการภาคภูมิใจ เพราะว่ามีคนจีนที่เข้ามาชมแล้ว เขาก็บอกโอโห ก็มีอะไรที่แปลก ๆ ที่เขาไม่เคยเห็น วัฒนธรรมไทย เขาก็ได้เห็นนะครับ ผลไม้ก็ได้ชิมนะครับ ทำให้เขาอยากไปเที่ยวประเทศไทย ทำให้เขาอยากจะไปรู้จักประเทศไทยมากขึ้น อันนี้คือสิ่งที่เราได้อย่างมหาศาล เพราะฉะนั้น สรุปก็คือว่า ผมว่า คงไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียว ทุกประะเทศแหละ แต่ว่าการที่มาร่วมงานนี้ ก็คือการประชาสัมพันธ์และก็การส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยอย่างดียิ่งนะครับ

ถาม ท่านคิดว่า จีนประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนในการจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ค่ะ

ตอบ มหาศาลเลยครับ ผมคิดว่า จีนประสบความสำเร็จอย่างมาก แล้วก็ผมคิดว่า คุ้มกับเงินที่จีนลงทุนในการสร้างเอ็กซ์โป เพราะตอนนี้ ไปไหนทั่วโลกเขาก็พูดถึงเรื่องเอ็กซ์โปอย่างเดียวนะครับ ก็บอกว่า ถ้าตอนนี้ใครไม่มาเซี่องไฮ้มาชมเอ็กซ์โป ก็ถือว่าเชย ในประเทศไทย ช่วง 6 เดือนแรกผมเตือนให้ทราบว่า ปกตินักท่องเที่ยวจีนที่ไปไทยจะมากกว่านักท่องเที่ยวไทยที่มาจีน ในแต่ละปีนี่ หนึ่งปีนะครับ จีนไปไทยประมาณสัก 8 แสน 9 แสนคน ไทยมาจีนประมาณ 3-4 แสน แต่ 6 เดือนแรกกลับปรากฏว่า ไทยมาจีนประมาณ 5 แสนเข้าไปแล้ว แต่จีนไปไทยยัง 4 แสนกว่า ก็อาจจะเป็นเพราะว่า ในช่วงต้นปี เราจะมีสถานการณ์ในเมืองไทยก็ไม่เป็นไร แต่ว่า ช่วงนี้ มีแนวโน้มว่า คนไทยหลายคนซึ่งก็ได้ดูข่าวตอนที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาเยือนนะครับ แล้วก็มีสื่อมวลชนมาทำข่าว เขาอยากมา จนกระทั่งตอนนี้คนที่ดีใจที่สุดคือใคร สายการบินไทย อีสเทิร์นไชน่านะครับ สองสายการบินนี้ คือเต็มทุกไฟลท์ เขาก็ดีใจ เพราะว่า ไม่ว่าคนไทยมาหรือคนจีนไป มันแน่นทุกไฟลท์ก็ดีใจมาก ก็เลยถือว่า ประสบความสำเร็จ และผมคิดว่า จีนก็ทำถึงเป้าหมาย 6 เดือนที่เขาตั้งไว้ 70 ล้านคน คิดว่า น่าจะถึงเป้าหมายนั้นได้นะครับ เพราะว่า คนทยอยมากันเยอะ ถึงแม้ว่าตอนนี้ โรงเรียนจะเริ่มเรียนแล้ว เพราะว่า ในช่วงกรกฏา-สิงหา เด็กนักเรียนเข้าชมเอ็กซ์โปมาก แต่ในช่วงสองเดือนหลังที่ก่อนที่จะจบเอ็กซ์โปคือกันยากับตุลานะครับ ผมคิดว่า คนก็ยังไม่ยิ่งหย่อนกับตอนกรกฎา-สิงหา คนก็ยังเข้ามาดู ยิ่งช่วงใกล้ปิดเมื่อไร คนจะยิ่งมาเยอะ โดยเฉพาะเพื่อน ๆ จากประเทศไทยนี่ เพื่อนของชาวจีนนี่ก็สนใจ ทุกคนเขาพูดถึงงานเอ็กซ์โป ท่านนายกฯ เองจะมาเป็นประธานในวันประจำชาติไทย วันที่ 5 กันยา วันอาทิตย์นี้นะครับ ในช่วงระหว่างนี้ ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่มาเป็นจำนวนมาก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลสุลไทยในจีนทั้งหมดก็มาประชุมที่เซี่ยงไฮ้ ผมถือว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก แล้วก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทางรัฐบาลจีนและเซี่ยงไฮ้ด้วย

ถาม ท่านคิดว่า ในระหว่างการปฏิบัติตามแนวคิด "เมืองที่ดีกว่า ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น" ซึ่งเป็นคำขวัญของงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2010 นครเซี่ยงไฮ้มีอะไรที่น่าติชมบ้างไหมคะ

ตอบ ผมคิดว่า เรื่องที่น่าชมนะครับ หนึ่ง เซี่ยงไฮ้มีการเตรียมการที่ดีมาก สอง เซี่ยงไฮ้ก็มีระบบการจัดการที่ดีในการเป็นเจ้าภาพเวิลด์เอ็กซ์โป สาม เซี่ยงไฮ้ก็เช่นเดียวกับตอนที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ก็พยายามที่จะรณรงค์ให้คนเซี่ยงไฮ้ทุกคนนี่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการต้อนรับไม่ใช่เฉพาะคนต่างชาติ แต่ต้อนรับคนจีนที่มาจากมณฑลอื่น ๆ ด้วยนะครับ อันนี้คือสิ่งที่น่าชมมาก แล้วก็ในเอ็กซ์โปเอง ก็มีนิทรรศการเมืองตัวอย่าง หลาย ๆ เมืองในจีน หนึ่งในนั้นก็คือ นิทรรศการศาลาเมืองตัวอย่างของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีความทันสมัยอย่างมากเลยนะครับ อันนี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม โดยเฉพาะที่ผมชื่นชมมากก็คือว่า เซี่ยงไฮ้ตอนที่เตรียมการสำหรับเอ็กซ์โปและในช่วงเปิดนี่ สามารถทำทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่งานเอ็กซ์โปจะเริ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น รถไฟใต้ดิน เดิมก็มี 6 สาย เพราะมีงานเอ็กซ์โปก็เพิ่มอีก 5 สายนะครับ ทุกอย่างสามารถสำเร็จก่อนงานเอ็กซ์โปจะเริ่ม ทำให้ตอนนี้การเดินทางในเซี่ยงไฮ้สะดวกอย่างมาก มุดลงไปใต้ดิน นั่งรถไฟใต้ดิน โผล่ได้ทุกจุดที่เซี่ยงไฮ้ อันนี้ถือว่าดีเยี่ยม อันที่สอง ก็มีแท็กซี่ของเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นแท็กซี่สีขาวเขียว ก็เป็นแท็กซี่ค่องข้างใหญ่แล้วก็มีความสะดวกมาก และก็มีฝึกพนักงานขับรถแทกซี่เซี่ยงไฮ้ ฝึกให้มีความสุภาพอย่างมาก ขึ้นไปก็มีการกล่าวต้อนรับ มีการขอบคุณเมื่อลงไปแล้วก็ขับรถด้วยความระมัดระวัง แล้วก็ขับรถไม่เร็ว ทำให้คนขึ้นไปนั่งแท็กซี่มีความอุ่นใจและความปลอดภัย ก็มีการโฆษณาเกี่ยวกับเอ็กซ์โปทั่วทั้งเมืองและก็ออกทางทีวีไปทั่วจีนทั่วโลก อันนี้ก็คือการเตรียมการที่ดีมาก แล้วก็ในแง่ของการจัดการบ้านเมือง ถือว่า เซี่ยงไฮ้ก็น่าจะเป็นเมืองตัวอย่างสำหรับเมืองในเมืองจีนซึ่งก็มีความเจริญ ทันสมัยอย่างมากเท่าเทียมประเทศในตะวันตกนะครับ แต่สิ่งที่น่าตินี้ก็เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ก็คือว่า ในช่วงเอ็กซ์โปนี่ อากาศร้อนอบอ้าวมาก เพราะฉะนั้น มันก็อาจะจะเป็นอุปสรรคในแง่ของการชม อีกอันหนึ่งก็คือว่า ที่งานเอ็กซ์โปนี่ อุปสรรคในการเข้าชมเอ็กซ์โป มันมีอยู่สองเรื่อง คือหนึ่งคิว คิวยาวมากนะครับ แต่เขาช่วยไม่ได้ การที่คิวยาวมากก็คือเป็นการประกาศถึงความสำเร็จของงานเอ็กซ์โป ก็มีคนเข้าชมมาก อุปสรรคอันที่สองก็คือเดิน เดินอย่างเดียวในงานเอ็กซ์โปก็จะต้องมีความแข็งแรงอย่างมาก แต่ในช่วงที่ฝนจะตกนะครับ แล้วก็อากาศดีหน่อย เย็นสบายนี่ เดินในเอ็กซ์โปเท่าไรก็ไม่เหนื่อย เพราะฉะนั้นก็เลยสงสัยว่า ทำไมเอ็กซ์โปไม่จัดในช่วงที่อากาศดีหน่อย แต่ก็ได้ทราบว่า ที่จัดในช่วงหน้าร้อนเพราะเด็กปิดเทอม เด็กก็จะได้มาเข้าชมด้วย จริง ๆ แล้ว คำชมมากกว่าคำติ เรื่องดินฟ้าอากาศนี้ก็เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ อันนี้โดยทั่วไปก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แล้วอีกอันหนึ่งชื่นชมก็คือว่า คนจีนที่ไปเยี่ยมชมศาลาต่าง ๆ นี่ เป็นคนที่มีความอดทนมากในการเข้าคิวแล้วก็เป็นคนที่มีระเบียบ ส่วนใหญ่เขาทำตามกฎกติกาที่แต่ละศาลาเขาจัดไว้และมีความแข็งแรงในการเดิน อีกอันหนึ่งก็คือว่า ในการจัดงานเอ็กซ์โป ภายในเอ็กซ์โปนี่ ก็เตรียมห้องน้ำ ที่พัก อาหารการกินนี่ไว้อย่างเพียงพอสมบูรณ์ และก็มีระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็งที่ดีมาก อาจจะเข้มแข็งเกินด้วยซ้ำในเรื่องของความปลอดภัย แต่ก็ไม่เป็นไร อันนี้เรื่องความปลอดภัยของสาธารณชนทั่วไป ทุกคนก็ต้องให้ความร่วมมือ สำหรับบ้านเมืองในเซี่ยงไฮ้นี่ มันก็เปลี่ยนไปเยอะ มีความสะอาดเป็นพิเศษ รถรา ถนนหนทางมีความสะอาด แท็กซี่ก็เยอะขึ้น รถไฟใต้ดินก็ดีนะครับ ไปทุกจุด อีกอันหนึ่งก็คือว่า พอคนต่างมณฑลเข้ามาเอ็กซ์โป จุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเซี่ยงไฮ้ คนก็เลยแน่นไปด้วย อย่างเช่นหอโทรทัศน์ไข่มุก ผมก็พาแขกไปอยู่ครั้งหนึ่ง ก็นึกว่า คนน่าจะธรรมดา ๆ แต่โอโหคิวไม่น้อยกว่าเอ็กซ์โปเลย เดินวงรอบถึงจะเข้าประตูได้ เข้าไปข้างในก็ยังเจอคิวอีก ปรากฏคิวในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ นี่ก็เหมือนกับอยู่ในเอ็กซ์โป ถ้ามองในแง่ความชื่นชมก็ยินดีกับเซี่ยงไฮ้เพราะว่าทำให้เงินมันสะพัด คนเข้ามาใช้จ่ายเยอะ เพราะฉะนั้น ก็ถึงมีข่าวจีดีพีของเซี่ยงไฮ้ในช่วงไตรมาสที่ 2 เดิมเขาคาดการณ์แล้วประมาณ 9 % ขึ้นถึง 12.7 %นะครับ แล้วทำให้ตลอดทั้งปีเดิมคาดก็ประมาณสัก 8 % กว่า อาจจะขึ้นถึงประมาณ 2 หลัก ก็คือ 10 % หรือ 11 % ก็ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จ อันนี้ตัวเลขมันชัดเจนอยู่แล้ว

(Jiang/Zhou/Cui/Chu)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
中泰友谊桥
v นายกรัฐมนตรีไทยเยือนจีนเพื่อหารือเรื่องการสร้างทางรถไฟความเร็วสูง และประกาศรายละเอียดการขอเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิล์ดเอ็กซ์โป 2010-09-03 11:26:11
v สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามต่อต้านญี่ปุ่นครบรอบ 65 ปี 2010-09-02 11:51:42
v รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีน-ไทยพบปะกัน 2010-08-30 18:50:08
v รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีนพบปะกับปลัดกระทรวงกลาโหมไทย 2010-08-24 13:22:17
v นางเฉิน จื้อลี่พบปะกับคณะผู้แทนสภาสตรีแห่งชาติของไทย 2010-08-12 12:32:33
v รองนายกรัฐมนตรีจีนพบปะกับรองนายกรัฐมนตรีไทย 2010-07-21 09:31:09
v ผู้นำจีนส่งสาส์นแสดงความยินดีในโอกาส 35 ปี ความสัมพันธ์จีน-ไทย 2010-07-01 08:42:11
v รมต.ไทยระบุความสัมพันธ์ไทย-จีนเป็นความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบ 2010-06-30 21:08:21
v จีนให้ความสนใจและมีความกังวลต่อสถานการณ์ไทย 2010-05-18 17:35:40
v จีนให้ความสนใจและรู้สึกห่วงใยต่อสถานการณ์ของไทยในปัจจุบันอย่างมาก 2010-05-16 18:24:17
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040