ด้านหลังประตูไม้โบราณและซุ้มประตูแห่งนี้ เป็นบ้านแบบซื่อเหอย่วนของนักเขียนผู้ยิ่งยงชาวจีนและของโลก เหลาเส่ออาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ตั้งแต่กลับมาจากสหรัฐอเมริกาตามคำเชิญของนายกโจว เอินไหล ในฐานะนักเขียนชาวจีนผู้มีชื่อเสียงระดับโลก
เหลาเส่อเลือกซื้อบ้านหลังนี้ในฤดูใบไม้ผลิปี 1950 และอยู่แยกออกมาจากบ้านของนักเขียนคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่รัฐบาลจัดให้ และเขายังตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า "บ้านแห่งความอุดมสมบูรณ์" เขาปลูกต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ที่ยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
แม้จะเป็นเวลาเพียง 16 ปี ที่เหลาเส่ออาศัยอยู่ที่นี่ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตอย่างน่ารันทดใจ แต่กลิ่นอายความขรึมขลังของการเป็นนักคิดนักเขียนก็ยังกรุ่นอยู่ในทุกอณูของบ้าน และสัมผัสได้ตั้งแต่เหยียบย่างเข้าไป
เมื่อเข้ามาสู่ในตัวพิพิธภัณฑ์เหลาเส่อจะพบว่าที่บ้านกลางซึ่งผินหน้าไปทางทิศใต้นั้น ได้จัดแสดงห้องทำงานและข้าวของต่างๆ ไว้เช่นเมื่อครั้งที่เหลาเส่อยังมีชีวิต ส่วนบ้านด้านปีกซ้าย และขวานั้นจัดแสดงชีวประวัติตั้งแต่วัยเด็กและผลงานทางวรรณกรรม มีหิ้งหนังสืออันทรงคุณค่าจำนวนมาก รูปภาพ ต้นฉบับลายมือ และข้าวของที่เหลาเส่อใช้ และมีชั้นหนังสือผลงานทุกฉบับภาษาและงานแต่ละช่วงชีวิตจัดแสดงไว้ด้วย โดยเฉพาะเรื่อง "ลั่ว ถัว เสียง จือ (Luo Tuo Xiang Zi)" หรือ "คนลากรถ" ที่ถูกแปลออกไปมากกว่า 30 ภาษา