ทำให้นึกถึงร้อยกรองในเรื่องกฤษณาสอนน้องคำฉันท์ ในวรรคที่ชาวไทยทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีที่ว่า "พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา"
แม้ร่างกายจะดับสูญไปตามกาลเวลา แต่ผลงานอันยิ่งใหญ่ยังคงโดดเด่นอยู่คู่กับทุกฤดูกาล
พิพิธภัณฑ์เหลาเส่อเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1999 ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีชาตกาล
ครับ...'รงค์ วงษ์สวรรค์ นักเขียนไทยผู้ยิ่งยงแห่งสวนทูนอินที่เพิ่งคืนลมหายใจให้ธรรมชาติไปเมื่อต้นปี เคยกล่าวไว้ว่า "การเดินทางเป็นสายตาของนักเขียน" ถ้อยความนี้ไม่ผิดเพี้ยยนเลยแม้แต่น้อย เพราะต้นทุนทางความคิดของคนเรานั้นล้วนมาจากการเดินทางและการใช้ชีวิต ซึ่งเหลาเส่อก็อยู่ในกฏเกณฑ์ที่ไม่ต่างกัน และอาจจะมีห้วงเวลาที่ยากลำบากกว่าคนทั่วไปนัก เพราะชีวิตของเขานั้นคาบเกี่ยวการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมายของประเทศจีน ตั้งแต่ยังปกครองด้วยจักรพรรดิ การถูกรุกรานโดยประเทศล่าอาณานิคม การสู้รบกันเอง จนเข้าสู่การปกครองแบบใหม่ และเขาก็จบชีวิตลงด้วยเหตุแห่งการลองผิดลองถูก กับการปกครองแบบใหม่ที่ไม่เคยมีใครเขียนคู่มือไว้ก่อน นอกจากเดินหน้าหาบทเรียนและข้อสรุปเอาเอง